13 พ.ค. 2015 หนังสือพิมพ์ the Daily Telegraph ฉบับวันที่ 13 พฤษภาคม 2015 เสนอข่าวงบประมาณปี 2015 โดยหัวใจสำคัญอยู่ที่ทุกคนต้องทำงาน เพราะหากมีประชากรทำงานเพิ่มขึ้น ก็เท่ากับเงินสวัสดิการว่างงานลดลง แถมได้ภาษีเงินได้บุคคลมากขึ้น เศรษฐกิจของประเทศก็จะได้ดีขึ้น และรัฐบาลอาจจะได้อยู่ต่ออีกสมัยหนึ่ง
มาดูผลได้ผลเสียของครอบครัวชาวออสเตรเลียกันต่อครับ
ครอบครัวมีรายได้ทั้งคู่ (แบ่ง 50/50) มีบุตรในวัยรุ่น
กลุ่มบิดามารดาทำงานทั้้งคู่ และมีลูกอยู่ในวัยรุ่น ถือเป็นครอบครัวที่ได้รับประโยชน์ดีขึ้นเมื่อเทียบกับงบประมาณปีที่ผ่านมามาก
นับจากวันที่ 1 กรกฎาคม 2017 เงินสนับสนุนก้อนใหญ่ใหม่สำหรับการดูแลเด็กหลังเวลาโรงเรียนเลิกจำนวน 6,000 เหรียญ จะมีให้สำหรับครอบครัวที่มีรายได้ต่ำ
เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กจะได้รับผลประโยชน์ ที่รวมถึงการหักภาษีได้ทันทีสำหรับสินทรัพย์มูลค่าต่ำกว่า 20,000 เหรียญที่ซื้อนับจากนี้ และตามด้วยการลดหย่อนภาษีสำหรับบริษัทขนาดเล็ก, ผู้ทำการค้าเดี่ยว และหุ้นส่วนโดยจะเริ่มในวันที่ 1 กรกฎาคม 2015
สำหรับผู้ที่มีรายได้ตั้งแต่ 180,000 เหรียญขึ้นไปจะได้รับผลพลอยได้อัตรามาร์จินภาษีก้าวหน้าลดลง 2% เมื่องบประมาณแก้ไขอัตราภาษีชั่วคราวจบสิ้นลงในเดือนกรกฎาคม 2017 – จะทำให้ผู้มีรายได้ประหยัดภาษี 200 เหรียญในทุก ๆ รายได้ 10,000 เหรียญ
ครอบครัวมีรายได้ทั้งคู่ (แบ่ง 50/50) มีบุตรในวัยเด็ก
ครอบครัวที่สามีภรรยามีรายได้ทั้งคู่และมีบุตรในวัยเด็ก คือกลุ่มที่ได้รับประโยชน์สูงสุดจากงบประมาณ 2015 เมื่อเทียบกับงบประมาณปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะครอบครัวที่มีรายได้ไม่เกิน 180,000 เหรียญ
ผลของเงินสนับสนุนเลี้ยงดูเด็กเล็กที่จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2017 จะมีส่วนช่วยเป็นอย่างมากต่อครอบครัวที่มีรายได้ไม่เกิน 80,000 เหรียญ
ส่วนครอบครัวที่มีรายได้มากว่า 65,000 เหรียญขึ้นไป จะได้รับผลประโยชน์เฉลี่ยปีละ 1,500 เหรียญ (ขออภัยไม่ทราบจริง ๆ ว่าผลประโยชน์นี้คืออะไร)
ผู้ทำการค้าส่วนตัว เช่นทำธุรกิจโดยใช้บ้านเป็นสำนักงาน จะได้รับการลดภาษีเช่นเดียวกับธุรกิจขนาดเล็ก โดยจะได้ส่วนลดภาษี 5% แต่ไม่เกิน 1,000 เหรียญต่อปีโดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2015
ผู้เกษียณอายุงาน
การเปลี่ยนแปลงการทดสอบเพื่อประเมินมูลค่าสินทรัพย์ของผู้อยู่ในวัยรับเงินบำนาญผู้สูงอายุ (เงินยังชีพผู้สูงอายุ) จะทำให้ผู้สูงอายุประมาณ 170,000 คนได้รับเงินช่วยเหลือผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นนับจากวันที่ 1 มกราคม 2017 (ซึ่งตัวเลขเหล่านี้ไม่ได้บรรจุและรวมเข้าอยู่ในตารางข้างบน)
การเปลี่ยนแปลงยังได้ลดจำนวนมูลค่าสูงสุดของสินทรัพย์ที่ผู้รับเงินช่วยเหลือผู้สูงอายุครอบครองก่อนที่ผู้สูงอายุจะถูกตัดสิทธิ์รับเงินช่วยเหลือ ในปัจจุบันอยู่ที่ 1.2 ล้านเหรียญสำหรับผู้อาวุโสสามีภรรยาที่มีบ้านเป็นของตนเอง
แต่ภายใต้งบประมาณใหม่ (ถ้าผ่านสภาสูงและไม่แก้ไขเปลี่ยนแปลงอีก) กำหนดให้คู่ครองสูงอายุมีสินทัพย์เกิน 823,000 เหรียญ และผู้อาวุโสไม่มีคู่ครอง มีสินทรัพย์เกิน 547,000 เหรียญนอกเหนือจากบ้าน จะถูกตัดออกจากสิทธิในการรับเงินช่วยเหลือผู้สูงอายุ ทำให้เชื่อว่าจะมีผู้สูงอายุประมาณ 91,000 คน (จิงโจ้นิวส์เชื่อว่า น่าจะมีตัวเลขน่าจะมากกว่านี้) จะไม่มีคุณสมบัติได้รับเงินช่วยเหลือผู้สูงอายุอีกต่อไป
ผู้ที่ไม่ได้รับเงินช่วยเหลือผู้สูงอายุอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ จะยังคงมีสิทธิได้รับบัตรสุขภาพสำหรับพลเมืองอาวุโสคือบัตร Commonwealth Seniors Health Card หรือบัตร Health Care Card
นอกจากนั้นการปฏิรูปการบริการบ้านพักคนชรา จะทำให้คนชรามีทางเลือกมากขึ้นในการตัดสินใจในด้านดูแลสุขภาพของตนเอง
jingjonews@hotmail.com
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply