
นสพ. the SMH ฉบับ 30 เม.ย. 2015 เสนอข่าวการประหารรชีวิตนาย Andrew Chan และนาย Myuran Sukumaran และการโต้ตอบจากรัฐบาลออสเตรเลีย
30 เม.ย. 2015 ทางการอินโดนีเชียได้ทำการประหารชีวิตนาย Andrew Chan และนาย Myuran Sukumaran สองนักโทษคดียาเสพติดที่รู้จักในนามคดี “Bali Nine” พร้อมนักโทษอีก 6 คน ในขณะที่รัฐบาลออสเตรเลียตอบโต้ด้วยการเรียกเอกอัครราชทูตประจำกรุงจากกาต้ากลับประเทศ พร้อมตัดลดเงินช่วยเหลือแก่อินโดนีเซีย
ในคดีนี้นาย Chan ชาวออสเตรเลียเชื้อสายจีนปัจจุบันวัย 31 ปี ถูกจับกุมที่สนามบินนานาชาติในเมือง Denpasar บนเกาะบาหลีในปี 2005 เขาถูกตั้งข้อหาเป็นหัวหน้ากระบวนการลักลอบยาเสพติดจากอินโดนีเซียเข้าสู่ออสเตรเลีย
นาย Chan จากย่าน Doonside ถูกจับตัวพร้อมกับผู้ที่เขาจ้างวาน 4 คนทำการซุกซ่อนเฮโรอินตามร่างกายขึ้นเครื่องบินรวมกันหนัก 8.3 กิโลกรัม และในวันเดียวกันตำรวจได้ขยายผลไปจับกุมนาย Sukumaran ชาวออสเตรเลียเชื้อสายอินเดียหัวหน้ากระบวนการลักลอบยาเสพติดอีกคน พร้อมสมุนชาวออสเตรเลียอีก 3 คน รวมผู้ต้องหาทั้งสิ้น 9 คน จึงถูกเรียกว่าคดี Bali Nine
ขบวนการดำเนินคดีเป็นที่สุดมื่อศาลฎีกาอินโดนีเซียยืนตามศาลก่อนหน้านี้ให้ลงโทษด้วยการประหารชีวิตนาย Chan และนาย Sukumaran สองหัวหน้ากระบวนการค้ายาเสพติดในเดือนพฤษภาคม 2011 ส่วนชาวออสเตรเลียอีก 7 คนคือ นาย Si Yi Chen, นาย Michael Czuguaj, นาย Tan Duc Thanh Nguyen (รายนี้เชื่อกันว่าเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในขบวนการครั้งนี้), นาย Matthew Norman, นาย Scott Rush และนาย Martin Stephen ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต ส่วนนาง Renae Lawrence ผู้ต้องหาหญิงเพียงคนเดียวในกระบวนการถูกตัดสินจำคุก 20 ปี
การประหารชีวิตนาย Chan และนาย Sukumaran ถูกกำหนดขึ้นในวันที่ 29 เมษายน ด้วยวิธียิงเป้าภายในเรือนจำ Besi บนเกาะ Nusakambangan พร้อมกับนักโทษประหารชาวต่างชาติรายอื่น ๆ อีก 7 คน (ดูรายชื่อตามหมายเหตุด้านล่าง*)
ในระหว่างวันที่ 28 ถึง 30 เมษายน สื่อมวลชนในออสเตรเลียเกือบทุกฉบับยุติขึ้นข่าวหน้าหนึ่งเหตุการณ์แผ่นดินไหวในเนปาล แล้วหันมาเสนอข่าวหน้าหนึ่งการประหารชีวิตและโจมตีนาย Jojoko Widodo ประธานาธิบดีอินโดนีเซียอย่างหนัก ด้วยเนื้อหาที่เต็มไปด้วยความกร้าวร้าวและเสียดสีอย่างไม่ไว้หน้า ต่อการที่เขาไม่ยื่นมือเข้ามาสั่งยกโทษประหารให้กับชาวออสเตรเลียทั้งสอง และกล่าวถึงการเสียชีวิตของคนทั้งสองว่า “เสียชีวิตอย่างกล้าหาญ” (deaths courageously)
ในขณะที่นาย Tony Abbott นายกรัฐมนตรีได้ออกมากล่าวถึงการประหารชีวิตนักโทษทั้งสองว่า “โหดร้าย และ เป็นช่วงมืดแห่งความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ”
นาย Abbott ได้เตรียมโต้ตอบด้วยการเรียกเอกอัครราชทูตประจำกรุงจากาต้ากลับประเทศ และตัดเงินช่่วยเหลือแก่อินโดนีเซีย ซึ่งในปีการเงิน 2014-15 ออสเตรเลียให้เงินช่วยเหลืออินโดนีเซีย 605 ล้านเหรียญ เป็นที่คาดว่า ในงบประมาณปี 2015-16 ที่จะมีขึ้นในเดือนพฤษภาคม เงินช่วยเหลือจะถูกตัดลดลงอย่างมาก
มาตรการโต้ตอบอินโดเนียเซีย ได้รับการสนับสนุนจากนาย Bill Shorten หัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน
ในด้านการเรียกเอกอัครราชทูตกลับคืน ได้เกิดขึ้นในช่วงสถานทูตแห่งใหม่มูลค่า 230 เหรียญกำลังจะเปิดดำเนินการแทนสถานทูตเก่าที่ถูกคาร์บอมบ์ในปี 2004 จนได้รับความเสียหายและไม่ปลอดภัย โดยสถานทูตใหม่จะเป็นสถานทูตออสเตรเลียในต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุด, ทันสมัยที่สุดและมีประบบรักษาความปลอดภัยที่ดีที่สุด โดยมีการจ้างเจ้าหน้าที่ชาวอินโดนีเซียทำงานในสถานทูตจำนวน 700 คน
อย่างไรก็ตามนาย Paul Grison เอกอัครราชทูตประจำกรุงจากาต้าจะยังคงอยู่ในอินโดนีเซียจนกว่าจะส่งญาติ ๆ ของนักโทษ Bali Nine กลับประเทศ ในขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับอื่น ๆ จะยังคงทำงานตามปกติ เพื่อไม่ให้ระบบงานการทูตเสียหาย
ทางด้านรัฐบาลอินโดนีเซียได้วางตัวเฉยต่อการโต้ตอบของออสเตรเลีย นาย HM Prasetyo ร.มว.สำนักงานอัยการของอินโดนีเซียเชื่อว่า “เป็นการโต้ตอบชั่วคราว” เพราะรัฐบาล (อินโดนีเซีย) ทำไปตามคำตัดสินของศาล โดยอินโดนีเซียจะไม่เรียกนาย Nadjib Riphat เอกอัครราชทูตของตนประจำกรุงแคนเบอร์ร่ากลับประเทศ
การเรียกทูตกลับประเทศถือเป็นมาตรการโต้ตอบที่ทั้งสองประเทศใช้ปฏิบัติเมื่อมีข้อพิพาทกัน โดยครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในปี 2013 เมื่ออินโดนีเซียเรียกเอกอัคราชทูตของตนกลับประเทศ หลังจับได้ว่าออสเตรเลียได้แอบดักฟังโทรศัพท์ของนาย Susilo Bambang Yodhoyono ขณะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี พร้อมบุคคลใกล้ชิดเขารวมถึงภริยา
หมายเหตุ *ผู้ถูกประหารพร้อมนาย Chan และนาย Sukumaran อีก 7 คนประกอบด้วย (1) นาย Rodrigo Gularte มาจากครอบครัวมีฐานะในประเทศบราซิล ด้วยความผิดครอบครองโคเคน 6 กก., (2) นาย Martin Anderson จากกานา ความผิดครอบครองเฮโรอิน 10 กรัม, (3) นาย Raheem Agbaje Salami ผู้มีรูปร่างคล้ายชาวแอฟริกาแต่ไม่ปรากฎสัญชาติ เขาเคยใช้ขีวิตเร่ร่อนอยู่ในกรุงเทพมาหลายปีก่อนถูกจับได้พร้อมเฮโรอิน 5 กก., (4) นาย Silvester Obiekwe Nwolise ชาวไนจีเรียถูกจับในข้อหาพยายามลักลอบนำเฮโรอิน 1 กก.จากปากีสถานเขาอินโดนีเซีย (5) นาย Okwuduli Oyatanze ชาวไนจีเรียถูกตรวจพบกลืนเฮโรอินบรรจุในถึงรวม 2.5 กก.ลงในกระเพาะอาหารเพื่อออกนอกประเทศพร้อมเพื่อน แต่เพื่อนเกิดล้มป่วยจากเหตุถุงบรรจุเฮโรอินแตกทำให้เรื่องแดงออกมา (6) นาย Zainal Abidin ชาวอินโดนีเซียเพียงคนเดียวที่ถูกประหารในข้อหาเป็นหัวหน้าขบวนการค้ากัญชา เขาถูกนำมาประหารแทนโควต้าของนาย Serge Atlaoui ชาวฝรั่งเศสที่ศาลรับพิจารณาเรื่องอุธรณ์ต่อโทษประหารจากความผิดตั้งโรงงานผลิตยาอี และ (7) นาง Mary Jane Veloso วัย 30 ปีจากประเทศฟิลิปปินส์ถูกจับพร้อมของกลางเฮโรอินจำนวน 2.2 กก.
อย่างไรก็ตามนาง Veloso ได้รอดจากการถูกยิงเป้าแบบเส้นยาแดงผ่าแปด เมื่อประธานาธิบดี Jojoko Widodo ยื่นมือเข้ามาช่วยเพียงไม่กี่ช่ั่วโมงก่อนการประหาร
ดร. Dave McRae ผู้เชี่ยวชาญด้านเอเชียศึกษาแห่งมหาวิทยาลัยเมลเบิร์นกล่าวว่า นาง McRae เป็นนักโทษประหารเพียงคนเดียวที่ได้รับความเห็นใจจากชาวอินโดนีเซีย เธอมาจากครอบครัวที่ยากจน เดินทางมาทำงานเป็นคนรับใช้ตามบ้านในประเทศมาเลเซีย โดยผ่านกระบวนการค้ามนุษย์ หลังจากถูกเลิกจ้างนาง Veloso แม่ลูกสองได้มาตายเอาดาบหน้าในอินโดนีเซีย และต้องเข้ามาอยู่ในกระบวนการค้ายาเสพติดโดยไม่ได้ตั้งใจ เรื่องราวชีวิตของเธอได้รับความเห็นใจจากชาวอินโดนีเซียและประธานาธิบดี Widodo

นสพ. the Advertiser ฉบับ 29 เม.ย. 2015 ลงข่าวการประหารชีวิตนาย Andrew Chan และนาย Myuran Sukumaran (ในภาพ) ในวันนี้ (29 เม.ย.)

นสพ. the Courier Mail ฉบับ 29 เม.ย. 2015 ลงภาพปธ. Jojoko Widodo เป็นคนมือเปื้อนเลือดหลังเมินเฉยต่อฎีกาขอชีวิตนักโทษประหาร
jingjonews@hotmail.com
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply