12 มี.ค. 2015 ผลการตรวจสอบปลาทูน่ากระป๋องที่เป็นสาเหตุให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษ ออกมาเมื่อวานนี้ (11 ม.ค.) พบถึงความเป็นไปได้สูงว่าจะมาจากขั้นตอนการจับปลาหรือกระบวนการผลิตในประเทศไทย ไม่ใช่จากการปรุงอาหารจากร้านอาหารในออสเตรเลีย
เมื่อวานนี้ที่ 11 มีนาคม สำนักงานอาหารรัฐนิวเซาท์เวลส์ (NFA) ได้รายงานผลการตรวจสอบสลัดปลาทูน่าจากร้านคาเฟ่สไตล์เทคอะเวย์ Soul Origin ใกล้ Town Hall ที่เป็นสาเหตุให้ผู้ทำงานในนครซิดนีย์ 7 คนล้มป่วยด้วยโรคอาหารเป็นพิษจากเชื้อสคอมบรอยด์ พบว่าในเนื้อปลาทูน่าที่ใช้ทำสลัดมีสารฮิสตามิน (histamine fish poising) ในระดับ 3,950 ไมโครกรัมต่อกิโลกรัม สูงกว่าอัตราที่ยอมรับว่าปลอดภัยที่ 200 ไมโครกรัมต่อกิโลกรัม
โฆษกของสำนักงาน NFA กล่าวว่า สารฮิสตามิน เป็นสารพิษที่เกิดขึ้นในปลาเฉพาะปลาในวงศ์ที่ก่อให้เกิดพิษปลาทะเลสคอมบรอยด์ หรือ scombroid fish poisoning เช่นปลาทูน่าและปลาซาดีน เมื่อมันเกิดแบคทีเรียตามธรรมชาติในตัวปลา แบคทีเรียจะผลิตเอนไซม์ที่ทำหน้าที่เปลี่ยนฮีสทีดีน (histidine คือกรดแอมิโนที่จำเป็นสำหรับวัยเด็ก) ในปลาให้เป็นสารพิษฮิสตามิน
ขบวนการนี้สามารถเกิดได้จากผลของอุณหภูมิในขณะจับปลาหรือขั้นตอนในการผลิต และถือเป็นเรื่องปกติที่มีปริมาณปลาไม่มากเกิดปฏิกริยาสร้างสารพิษฮิสตามิน ในขณะที่ปลาส่วนใหญ่ไม่เกิดกระบวนการเปลี่ยนแปลงนี้
หลังจากที่เกิดเหตุมีผู้ล้มป่วยด้วยโรคอาหารเป็นพิษจากเชื้อสคอมบรอยด์ ทำให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเกิดความไม่มั่นใจในกระบวนการผลิตในประเทศไทย ที่รวมถึงการไม่จัดเก็บปลากระป๋องที่ผลิตได้ไวในห้องเย็น
อย่างไรก็ตามสำนักงาน NFA ได้นำตัวอย่างปลากระป๋อง John Bull ที่เป็นสาเหตุให้มีผู้ป่วยโรคอาหารเป็นพิษ 7 รายมาทำการทดสอบ พบว่าทั้ง 21 กระป๋องผ่านการทดสอบ ไม่มีกระป๋องใดปนเปื้อนสารฮิสตามินในระดับอันตราย
ปลาทูน่ากระป๋อง John Bull ผลิตจากโรงงานของบริษัท ISA Value Co Ltd ในประเทศไทย นำเข้าโดยบริษัท FTA Food Solution Ltd. ในรัฐวิกตอเรีย
โฆษกคนเดิมกล่าวว่า ความกังวลในเรื่องปลาลูน่ากระป๋องนำเข้าทำให้กระทรวงเกษตรแห่งเครือรัฐออสเตรเลียซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบต้องเข้าจัดการเคลียร์ปัญหาอย่างเร่งด่วน ด้วยการระงับการจำหน่ายสินค้าชั่วคราวและหยุดการนำเข้าไว้ก่อน จนกว่าผลการตรวจสอบจะออกมา
ผลการทดสอบที่ออกมา ทำให้สำนักงาน NFA พอใจ ไม่สั่งปรับหรือลงโทษร้านคาเฟ่และบริษัท FTA Food Solution ผู้นำเข้า นอกจากนั้นผลการทดสอบสินค้าโดย FTA Food Solution และ ISA Value Co Ltd ก็พบว่าปลอดภัยต่อการบริโภคเช่นกัน
นาย Rob Burgess ผู้อำนวยการของ FTA Food Solution ออกมาแถลงข่าว ขอแสดงความเสียใจแก่ลูกค้าร้านคาเฟ่ที่ได้รับผลกระทบจากเชื้อสคอมบรอยด์เมื่อเร็ว ๆ นี้ และหวังว่าทุกคนได้หายเป็นปกติแล้ว
เขากล่าวว่า ผลจากการทดสอบปลากระป๋องที่ยังไม่เปิดฝาทุกกระป๋อง พบว่าสินค้าได้คุณภาพตามมาตรฐานต่อการบริโภค และกลับมาอยู่ภายในกรอบของความปลอดภัยตามที่กำหนดไว้ (คือมีสารฮิสตามินต่ำกว่า 200 ไมโครกรัมต่อกิโลกรัม)
เป็นที่เชื่อว่าตัวปลาที่ไม่สามารถรักษาความสดได้ทั้ง 100% ในขั้นตอนการจับก่อนถึงโรงงานและการคงคลังปลาทูน่ากระป๋องไว้ในที่มีอุณหภูมิสูง ได้มีส่วนทำให้ปลาทูน่า (บางกระป๋อง) เมื่อเปิดฝาออกสามารถผลิตสารฮิสตามินในระดับอันตรายได้อย่างรวดเร็วภายในไม่กี่ชั่วโมง โดยเฉพาะในวันที่มีอากาศร้อนจัด
หมายเหตุ ท่านสามารถอ่านข่าวเกี่ยวเนื่องในเรื่องทูน่าจากประเทศไทยได้ด้วยการกดคลิก “John Bull Tuna” ได้ที่ Tags ท้ายข่าวนี้
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com
จิงโจ้นิวส์เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply