
นสพ. the Daily Telegraph ฉบับ 8 มี.ค. 2015 เสนอข่าวเจ้าหน้าที่สกัดสองพี่น้องมีแผนหลบหนีไปร่วมรบกับกลุ่ม ISIS สอบเข้มอยู่หลายชั่วโมง ก่อนได้รับอนุญาตให้โทรหามารดามารับกลับบ้าน
8 มี.ค. 2015 สองพี่น้องวัย 16 ปีและ 15 ปีถูกสงสัยว่าพยายามจะเดินทางออกจากออสเตรเลียเพื่อไปร่วมรบในตะวันออกกลาง ได้ถูกเจ้าหน้าที่กักตัวไว้ที่สนามบินซิดนีย์ ทั้งสองถูกตรวจค้นกระเป๋าและสอบปากคำเป็นเวลาหลายชั่วโมง ก่อนที่ผู้เป็นมารดาจะมารับกลับบ้าน
นาย Peter Dutton ร.มว.การเข้าเมืองและการป้องกันชายแดนได้ออกมาเปิดเผยว่า สองพี่น้องได้ถูกเจ้าหน้าที่ยับยั้งไว้ที่สนามบินเมื่อคืนวันศุกร์ที่ 6 มีนาคมที่ผ่านมา
ทั้งสองได้ซื้อตั๋วเครื่องบินไปกลับโดยมีจุดหมายปลายทางที่ประเทศหนึ่งในตะวันออกกลาง และส่อแววพิรุธให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองสงสัย จึงผ่านเรื่องไปให้เจ้าหน้าที่ต่อต้านการก่อการร้ายประจำสนามบินทำการสอบปากคำ
เจ้าหน้าที่เริ่มมีความเชื่อมั่นว่าทั้งสองเสี่ยงต่อการหลบหนีออกไปเข้าร่วมกับกลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลาม หรือ ISIS ในอิรักและซีเรีย หลังจากทำการตรวจค้นกระเป๋าเดินทาง และข้อมูลที่ได้จากการสอบปากคำ
นาย Dutton กล่าวว่า การสกัดวัยรุ่นทั้งสองถือเป็นความสำเร็จอีกครั้งหนึ่ง ที่จะไม่ต้องเสียวัยรุ่นเข้าไปสู่สมรภูมิรบ หลังจากพวกเขาถูกล้างสมองให้เชื่อในลัทธิชั่วร้าย เพื่อทำการต่อสู้กับรัฐบาลที่ชอบด้วยกฎหมาย
เด็กวัยรุ่นสองพี่น้องถูกกักตัวอยู่ที่สนามบินเป็นเวลาหลายชั่วโมงก่อนที่ จะอนุญาตให้ผู้เป็นบิดามารดามารับกลับบ้าน
ในเดือนมิถุนายนปีที่ผ่านมานาย Abdullah Elmir วัย 17 ปีจากซิดนีย์ ผู้หลบหนีไปกับเพื่อนอายุ 16 ปี (ผู้ได้รับการสงวนนาม) ได้หายออกไปจากบ้าน ต่อมาพบว่าพวกเขาไปร่วมกับกลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลาม และนาย Elmir ได้ออกวีดีโอเตือนว่า เขาจะสู้จนกว่าธงรัฐอิสลามจะไปโบกสะบัดอยู่เหนือพระราชวังบักกิ้งแฮมและทำเนียบขาว
ในวีดีโอเขายังกล่าวว่า “ถึงผู้นำทั้งหลาย, ถึงนาย Obama, ถึงนาย Tony Abbott ผมขอพูดว่า อาวุธที่พวกเรามีเหล่านี้, ทหารเหล่านี้, เราจะไม่หยุดต่อสู้ เราจะปลดอาวุธต่อเมื่อได้แผ่นดินของท่านแล้ว”
สำหรับเพื่อนวัย 16 ปีของเขาต่อมาได้รับการช่วยจากบิดานำกลับมาออสเตรเลีย และกลับเข้าเรียนต่อทันเปิดเทอมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทางการประมาณว่ามีชาวออสเตรเลียกว่า 100 คนได้หลบหนีออกนอกประเทศไปร่วมกับกลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลามในอิรักและซีเรีย
ในจำนวนนี้รวมถึงนาง Amira Karroum วัย 22 ปีจาก Gold Coast ผู้ถูกยิงเสียชีวิตภายในไม่กี่วันหลังจากไปถึงซีเรียเมื่อปีที่ผ่านมา
ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานาง Julie Bishop รมว.การต่างประเทศกล่าวว่า มีวัยรุ่นหญิงชาวออสเตรเลียเกือบ 40 คนได้เดินทางไปตะวันออกกลางในฐานะเจ้าสาวของนักรบเพื่อพระเจ้า โดยทำหน้าที่ร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับสามีและผลิตทายาทนักรบให้กับกลุ่ม ISIS
ก่อนหน้านี้สื่อมวลชนในออสเตรเลียเคยเสนอข่าว วันรุ่นสาววัย 18 ปีและ 20 ปีได้หลบหนีไปตะวันออกกลางเพื่อไปเป็นเจ้าสาวของนักรบเพื่อพระเจ้า ต่อมาหนึ่งในสองวัยรุ่นสาวเกิดโชคร้าย สามีของเธอเสียชีวิตในระหว่างการสู้รบ ทำให้เธอตกเป็นสมบัติของกลุ่มก่อการร้าย ISIS
ผู้เป็นมารดาของหญิงสาวกล่าวว่า บุตรสาวของเธอได้กลายเป็นของส่วนกลางที่นักรบเพื่อพระเจ้าทุกคนสามารถมีเพศสัมพันธ์กับเธอได้โดยจ่ายค่าธรรมเนียมตามอัตราที่กำหนดให้กับส่วนกลาง ซึ่งบุตรสาวของเธอก็ยินดีทำเพราะถือเป็นการทำงานพลีร่างให้กับพระเจ้า
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply