มีนาคมเป็นเดือนเริ่มต้นของฤดูใบไม้ร่วง อากาศเปลี่ยนจากร้อนมาเป็นอบอุ่น ในระดับเฉลี่ยประมาณ 20-22 องศาเซลเซียส เรียกได้ว่ากำลังเย็นสบาย แต่ที่ไม่สบายก็คือ ใบไม้ร่วงหล่นบนพื้นหญ้าที่ให้ต้องเก็บต้องกวาด สนามหญ้ารอบบ้านก็ยังต้องตัดเดือนละครั้ง
แต่ก่อนใบไม้จะร่วงหมดต้น บางสายพันธุ์จะเปลี่ยนสีใบจากสีเขียวเป็นสีเหลือง หรือสีแดง ดูสวยสดละลานตา
เดือนมีนาคมยังถือเป็นเดือนแห่ง “วันแรงงาน” ในบางรัฐ คือรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียกำหนดในวันจันทร์แรกของเดือน รัฐวิกตอเรียและรัฐแทสมาเนียกำหนดในวันจันทร์ที่สองของเดือน ที่รัฐแทสมาเนียเขาไม่เรียก “Labor Day” แต่จะเรียก “Eight Hours Day” แทน
ในช่วงวันแรงงานในนครเมลเบิร์นยังถือเป็นช่วงเทศกาล Moomba Festival อีกด้วย และในวันที่ 17 มีนาคมยังเป็นวัน St Patrick’s Day หรือ วันนักบุญแพทริค ของชาวไอริชในออสเตรเลีย ที่ผู้คนแต่งกายสีเขียว วันนี้ไม่ใช่วันหยุดราชการ ทำให้การจัดขบวนพาเหรดประจำปีถูกเลื่อนไปในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ใกล้วันที่ 17 มีนาคมมากที่สุด
@@@@
ในช่วงเดือนมกราคมและเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาสื่อมวลชนออสเตรเลียเสนอข่าวรายวันถึงชะตากรรมของนาย Andrew Chan และนาย Myuran Sukumaran นักโทษรอประหารคดีพยายามลักลอบนำเฮโรอินหนัก 8.3 กก.ออกนอกประเทศอินโดนีเซียในปี 2005 สองเดือนที่ผ่านมาสื่อออสเตรเลียกดดันให้อินโดนีเซียยกเลิกการประหารชีวิตนักโทษทั้งสอง
มีการเสนอข่าวอดีตนายกรัฐมนตรีของออสเตรเลียทั้งห้าคนออกมาเรียกร้อง และที่แน่ ๆ นาย Tony Abbott นายกรัฐมนตรีกับนาย Bill Shorten ผู้นำพรรคฝ่ายค้านก็ต้องออกมาเล่นด้วย เพื่อไม่ให้คะแนนนิยมของตนต้องตกต่ำลงเพราะเหตุการณ์นี้ แต่นาย Abbott คงปากไว้ไปหน่อยที่พูดแดกดันว่า เมื่อครั้งเหตุการณ์สีนามิออสเตรเลียยังช่วยไปตั้ง 1 พันล้านเหรียญ แล้วเรื่องเล็ก ๆ อย่านี้ทำไมอิเหนาใจดำไม่ยอมช่วย
การออกมาลำเลิกบุญคุณและส่อไปในทางหมิ่นศักดิ์ศรีมนุษย์ของผู้นำออสเตรเลีย ก่อให้เกิดการต่อต่านจากประชาชนชาวอิเหนากันทั้งประเทศ นายกฯของเราจึงกลายเป็นบุคคลที่ชาวอินโดนีเซียเกลียดที่สุดในปีพ.ศ.นี้
อันนี้นายกฯ Abbott ดูจะเห็นแก่ตนไปพอสมควร โดยไม่นึกถึงศักดิ์ศรีของประเทศเพื่อนบ้าน และตัวประธานธิบดี Joko Widodo ว่าเขาจะย่อยยับทางการเมืองเพียงใด หากเขาทำตามอำเภอใจผู้นำออสเตรเลีย ท่ามกลางประชาชน 252 ล้านคนของเขาที่สนับสนุนให้ทำตามขื่อตามแปของบ้านเมือง
นี้คือตัวอย่างหนึ่งของประเทศตะวันตกชอบเอาความคิดของตนเองเป็นที่ตั้ง แล้วเอาความคิดที่พวกเขาคิดว่าต้องถูกแล้ว ไปยุ่งเกี่ยวกับกิจการภายในของประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก โดยไม่ยอมมองว่า สิ่งที่ตนเองเห็นว่าผิด แต่ทำไมหลายประเทศใช้ได้ผล ไม่ว่าจะเป็นสิงคโปร์ มาเลเซีย ไต้หวัน หรือแม้แต่ประเทศไทย ปัญหายาเสพติดถูกตีกรอบให้อยู่ในคนกลุ่มหนึ่ง แต่ในออสเตรเลียยาเสพติดได้เข้าถึงคนทุกระดับชั้นไม่เว้นแม้แต่ผู้ดีลงไปจนไพร่ ไม่เว้นแม้แต่อาชีพแพทย์ นักกฎหมาย ครูอาจารย์ นักกีฬา คนบันเทิง นักสอนศาสนา นักเรียน นักศึกษา และนักการเมือง
จิงโจ้นิวส์เชื่อว่า หากพรรคการเมืองทั้งสองฝ่ายของออสเตรเลียมีความเข้มแข็งพอ และเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศเป็นที่ตั้ง หันมายอมรับกฎหมายยาเสพติดของประเทศเพื่อนบ้านที่ใช้ได้ผล เอามาประยุกต์ใช้บ้าง รับรองว่าออสเตรเลียแทบจะปลอดยาเสพติดเหมือนอย่างเพื่อนบ้าน
ข่าวนี้จิงโจ้นิวส์ตัดสินใจที่จะลงเมื่อถึงบทสรุป คือประหารหรือไม่ประหารมาตั้งแต่แรก เพราะหากรายงานก่อนหน้านี้คงจะต้องลงติดต่อกันหลายตอน เป็นการเบียดเบียนเนื้อที่ข่าวอื่น และจิงโจ้นิวส์ยังเห็นด้วยต่อการเคารพกฎหมายของเพื่อนบ้าน อีกทั้งนาย Chan และนาย Sukumaran ก็รู้ถึงเกมนี้ดีว่า หากพวกเขาลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในออสเตรเลียได้ พวกเขาจะเป็นมหาเศรษฐี และหากพวกเขาทำไม่สำเร็จก็จะจบลงด้วยโทษอย่างที่พวกเขากำลังเผชิญอยู่ขณะนี้
ดังนั้นควรปล่อยให้กฎหมายของเพื่อนบ้านได้ทำหน้าที่ตามวิถีทางของกฎหมาย เพื่อไม่ให้เป็นแบบอย่างกับวัยรุ่นอีกจำนวนมาก ที่คอยเอาอย่างอีโร่ทั้งสองของพวกเขา และฮีโรคนอื่น ๆ ที่ทำสำเร็จและมีเงินมีทองใช้จ่ายอย่างที่พวกเขาใฝ่ฝันมาแล้วมากมายหลายคน
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply