Home › ข่าวออสเตรเลีย › Rose กะ Gina ต่างไม่ปลื้มมินิซีรี่ส์ เรื่องราวสาวเอเชียเคยรวยที่สุดในออสเตรเลีย

Rose กะ Gina ต่างไม่ปลื้มมินิซีรี่ส์ เรื่องราวสาวเอเชียเคยรวยที่สุดในออสเตรเลีย

By strongly55 on February 10, 2015 • ( 0 )

โปสเตอร์โปรโมทมินิซีรีส์ House of Hancock

10 ก.พ. 2015 นาง Rose Porteous อดีตหญิงสาวผู้อพยพมาจากประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งครั้งหนึ่งนิตยสาร BRW 200 Rich List ยกย่องว่าเธอเป็นสตรีชาวเอเชียที่รวยที่สุดในออสเตรเลีย ผู้ซึ่งถูกกล่าวหาว่ามีอดีตตกต่ำถึงกับยอมขายตัวเลี้ยงชีพ (ตามข้ออ้างของบุตรสาวเมื่อครั้งทะเลาะกับมารดา) ก่อนมาเป็นคนรับใช้ที่คฤหาสน์ของผู้เฒ่า Lang Hancock เจ้าพ่อเหมืองแร่เหล็ก และด้วยท่านั่งค่อมหลังนวดผู้เฒ่าผู้ว้าเหว่ ทำให้เธอผันตัวจากหญิงรับใช้ มาเป็นภรรยามหาเศรษฐีหมายเลขหนึ่งของประเทศ และกลายเป็นหนึ่งในผู้รับส่วนแบ่งมรดก เมื่อผู้เฒ่าเสียชีวิตลงในปี 1992

ครั้งหนึ่งเมื่อบริษัทสร้างภาพยนตร์จากฮอลลีวูดเดินทางมาที่คฤหาสน์ Prix D’Amour ของนาง Porteous ในนครเพิร์ทเพื่อดูทำเลและติดต่อขอสร้างภาพยนตร์ชีวประวัติของเธอ

ครั้งนั้นนาง Porteous ได้ยื่นเงื่อนไขว่าผู้แสดงเป็นเธอต้องเป็น Meryl Streep ดาราเจ้าบทบาท เจ้าของรางวัลออสการ์ 3 ตัว ซึ่งกำลังโด่งดังสุดขีดในเวลานั้นเท่านั้น หาไม่แล้วเธอจะแสดงเอง เล่นเอาทีมงานฮอลลิวูดถอดใจในความเรื่องมากของเธอ

แต่ขณะนี้ทีวี Nine Network กำลังออกอากาศมินิซีรีส์ที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับเธอและนาง Gina Rinehart อดีตลูกเลี้ยงคู่กัดของเธอและปัจจุบันเป็นคนรวยที่สุดในออสเตรเลีย จากการจัดอันดับโดยนิตยสาร Forbes และนิตยสาร BRW โดยทีวี 8 ให้ชื่อมินิซีรีย์ว่า “House of Hancock”

มินิซีรี่ส์เรื่องนี้ได้นาย Sam Neil แสดงเป็นผู้่เฒ่า Lang Hancock, ได้ Mandy McElhinney แสดงเป็น Gina Rinehart และ Peta Sergeant แสดงเป็น Rose Lacson หรือ Rose Hancock ในอดีตหรือ Rose Porteous ในปัจจุบัน

นาง Porteous กล่าวว่า เธอจะไม่มีวันดูมินิซีรี่ส์เรืองนี้ เพราะเชื่อว่าเรื่องราวจะออกมาเข้าข้างนาง Rinehart บุตรสาวของผู้เฒ่า Hancock คู่อริของเธอ และผู้แสดงล้วนแต่เป็นดาราโนเนม

ทั้งที่ Sam Neill มีผลงานการแสดงภาพยนตร์ฮอลลิวูดและระดับโลกมากมายอย่าง Omen III, Dead Calm, The Piano, Jurassic Park, Merlin, The Hunt for Red October. The Horse of Whisperer และ The Tudors เป็นต้น ส่วน Mandy McElhinney และ Peta Sergeant แม้จะเป็นนักแสดงในประเทศแต่ก็มีผลงานการแสดงไม่น้อย

อย่างไรก็ตาม หลังจากมินิซีรี่ย์เริ่มออกอากาศตอนแรกในเวลา 20.45 น.ของคืนวันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ฝ่ายนาง Rinehart ก็ออกมาโจมตีว่า ทีวี 9 โกหกครั้งใหญ่เกี่ยวกับเรื่องราวของครอบครัวของเธอ เพื่อหวังเรียกเรตติ้งจากคนดู

กลู่มผู้สวามิภักต่อนาง Rinehart ออกมากล่าวว่า มินิซีรี่ส์ตอนแรกที่ออกมา “ไร้รสนิยม” และ “เป็นเรื่องแต่งขึ้นเอง” และที่สำคัญก็คือภาพนาง Rinehart ออกมาเอ้วนฉุตั้งแต่เธอยังสาว แท้จริงแล้วในช่วงต้นทศวรรษที่ 1990 เธอยังมีร่างกายผอมบาง

นาย Tad Watroba ผู้อำนวยการบริหารบริษัท Hancock Prospecting Pty. Ltd. ในนครเพิร์ทออกมากล่าวปกป้องผู้เป็นเจ้านายว่า เขาได้เขียนจดหมายถึงนาย David Gyngell ผู้อำนวยการบริหารของทีวี 9 จำนวนสามฉบับบอกว่ามินิซีรีย์ของเขาเต็มไปด้วยเรื่องไม่จริง และมันได้ “ทำลายความทรงจำที่ดีของคนออสเตรเลีย”

นาย Watroba กล่าวว่า เขาทำงานกับครอบครัว Hancock มาตั้งแต่ปี 1991 ได้เห็นและได้รับรู้เรื่องราวของครอบครัวนี้มาอย่างดี จึงพบว่ามันผิดเพี้ยนไปจากเรื่องที่ปรากฎในมินิซีรี่ส์อย่างมาก

ตัวอย่างเรื่องราวที่ผิดพลาดเช่น แท้จริงแล้วนาย Hancock และนาง Rinehart เป็นพ่อและลูกที่รักกันมาก และเป็นครอบครัวที่อบอุ่น

นอกจากนั้นนาง Rinehart ยังใกล้ชิดกับมารดาของเธอ มินิซีรี่ส์ทำให้คนดูเข้าใจว่าเธอยังคงท่องเที่ยวและดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ต่อในสหรัฐต่อไป ในขณะที่นาง Hope Hancock มารดาของเธอป่วยหนักและเสียชีวิตลงตามที่ปรากฎในหน้าจอทีวี เพียงแต่ตอนนั้นไม่มีใครโทรศัพท์เรียกเธอกลับในระหว่างไปฮันนิมูน

มินิซีรีย์เรื่องนี้ ยังมีโอกาสสูงที่มีการออกมาโจมตีอีก เมื่อเรื่องดำเนินถึงบทของลูก ๆ ที่เกิดจากสามีคนแรก มีข้อพิพาทในชั้นศาลกับนาง Rinehart ผู้เป็นมารดาในเรื่องสิทธิในสมบัติที่ฝากฝังไว้จากผู้เป็นตา และเรื่องแตกแยกกันระหว่างลูกต่างบิดาอีกด้วย