4 ม.ค. 2015 ภัยคุกคามจากกลุ่มก่อร้ายมุสลิมหัวรุนแรงเข้ามาถึงบ้านเรียบร้อยแล้วที่เหมือนกันระหว่างออสเตรเลียกับฝรั่งเศส กำลังทำให้ความสัมพันธ์แตกร้าวเป็นเวลา 20 ปีระหว่างสองประเทศกลับมาสนิทชิดเชื้อกันอีก โดยผ่านทางการทูตระหว่างทั้งสองประเทศ เพื่อพัฒนาสู่ความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาล
นาย Stephen Brady เอกอัครราชทูจออสเตรเลียประจำกรุงปารีสกล่าวว่า ทั้งออสเตรเลียและฝรั่งเศสต่างเผชิญกับภัยคุกคามจากการทำสงครามพระเจ้าในประเทศ กำลังจะทำให้ออสเตรเลียและฝรั่งเศสหันมาร่วมมือกัน ในระดับเดียวกับที่ออสเตรเลียเพิ่มความร่วมมือกับประเทศเสรีอื่น ๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะกับสหรัฐและสหราชอาณาจักร
ความสัมพันธ์ของออสเตรเลียกับฝรั่งเศสได้ถึงจุดเสื่อมลงเมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา เมื่อรัฐบาลฝรั่งเศสประกาศทดลองอาวุธนิวเคลียร์บนเกาะปะการัง Mururoa ในมหาสมุทรแปซิฟิก ก่อให้เกิดการประท้วง, การบอยคอตต์ และการก่อเหตุรุนแรงต่อสิ่งที่เป็นฝรั่งเศสในออสเตรเลียและในประเทศหมู่เกาะแปซิฟิก
นาย Brady กล่าวว่าเหตุการณ์ในอดีตได้ถือเป็นประวัติศาสตร์ ในขณะที่ประเทศกำลังมองหาความสัมพันธ์ทางด้านการป้องกันและงานข่าวกรองที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องของภัยจากกลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลาม (ISIS)
เขากล่าวว่า ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาทั้งสองประเทศได้รับประสบการณ์จากการถูกโจมตีโดยผู้ก่อการร้ายเหมือนกัน ที่ออสเตรเลียนาย Man Haron Monis ผู้ฝักใฝ่รัฐอิสลามได้บุกยึดร้าน Lindt Chocolate Cafe จับตัวประกัน 17 คน (ควรเป็น 18 คน) ในขณะที่ในฝรั่งเศสผู้ก่อการร้ายได้ใช้รถแวนพุ่งเข้าชนฝุงชนที่ออกมาช็อปปิ้งในช่วงเทศกาลคริสต์มาสใน 3 เมืองใหญ่ คือเมืองน็องต์, ดิฌงและตูร์ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวมกัน 20 คน
นาย Brady กล่าวว่า ฝรั่งเศสและออสเตรเลียได้ให้ความร่วมมือทางด้านการต่อต้านการก่อการร้ายและด้านความมั่นคงในภูมิภาคแปซิฟิก
ในด้านความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศในปีที่ผ่านมามีชาวออสเตรเลียเดินทางไปประเทศฝรั่งเศสจำนวน 800,000 คน ซึ่งถือเป็นยอดสูงสุดในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ในขณะที่ออสเตรเลียออกวีซ่าทำงาน-ท่องเที่ยวให้กับชาวฝรั่งเศสอายุต่ำกว่า 30 ปีจำนวน 30,000 คน เข้ามาใช้ชีวิตในออสเตรเลียเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 22%
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply