รถบรรทุกสองตอนที่ตำรวจพบลูกล้อคู่หนึ่งหายไป ตามลูกศรสีแดงชี้ (ภาพชั่วคราวจากนสพ. the Telegraph)

8 ธ.ค. 2014 เหตุการณ์นี้อาจเป็นเรื่องปกติในประเทศไทย เพราะพบเห็นเป็นประจำตามท้องถนน แต่ในออสเตรเลียถือเป็นข่าวช็อกวงการสื่อมวลชนออสซี่ทีเดียว   เมื่อตำรวจทางหลวงรัฐนิวเซาท์เวลส์ได้พบรถบรรทุกสองตอนมีล้อหายไปคู่หนึ่ง แต่มีโซ่ล่ามยึดเพลารถไว้แทน

เจ้าหน้าที่ประจำรถตำรวจลาดตระเวณพบรถบรรทุกคันดังกล่าวขณะวิ่งมาตามทางด่วน Newell ­Highway ใกล้เมือง Daroobalgie ทางตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐน.ซ.ว.เมื่อวันอังคารที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมา

แต่สิ่งที่ตำรวจประหลาดใจเข้าไปอีก เมื่อตำรวจใช้วิทยุให้สกัดรถบรรทุกดังกล่าวที่สถานีตรวจสอบข้างหน้า พนักงานขับกลับพูดหน้าตาเฉยว่า เขาทราบดีว่าล้อรถขาดไปคู่หนึ่ง และบอกว่ารถยัง “โอเค” ที่จะวิ่งต่อไปได้อย่างปลอดภัย โดยเขาตั้งใจจะไปใส่ล้อคู่ใหม่ที่เมือง Dubbo ซึ่งอยู่ห่างออกไปอีก 150 กม.

เมื่อพนักงานขับพาซื่อเผยความจริงให้ตำรวจทราบ จึงถูกตรวจเข้ม โชคดดีที่ตัวรถและเครื่องยนต์อยู่ในสภาพดี แต่เมื่อขอดู log book หรือบันทึกชั่วโมงและระยะทางการวิ่งของรถบรรทุก พบว่าเขาไม่ได้หยุดพักระหว่างทางตามที่กำหนด จึงโดนข้อหาขับรถในขณะร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพออีกหนึ่งกระทง พนักงานขับรถบรรทุกรายนี้ขณะถูกจับอยู่ในระหว่างขับรถจากนครเมลเบิร์นเพื่อจะไปส่งสินค้าที่นครบริสเบน

รถบรรทุกที่ถูกจับคันนี้เป็นหนึ่งในรถบรรทุกกว่า 10,000 คันที่ถูกตำรวจทางหลวงและเจ้าหน้าที่สำนักงานการทางหลวงและการเดินเรือหรือ RMS (ชื่อใหม่ของ RTA) แห่งรัฐน.ซ.ว.ขณะปฏิบัติงานภายใต้ชื่อ Operation Shield ทำการตรวจสอบรถบรรทุกวิ่งตามทางหลวงสำคัญทั่วรัฐน.ซ.ว.ในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา

นาย John Hartley ผู้ช่วยผู้ว่าการตำรวจรัฐน.ซ.ว.กล่าวว่าในช่วงที่ทำการตรวจสอบ ตำรวจและ RMS ได้พบรถบรรทุกจำนวนหนึ่งมีสภาพเครื่องยนต์อยู่ในสภาพไม่สมควรออกวิ่งอย่างมาก และบางคันบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่กำหนด นอกจากนั้นยังพบรถบรรทุกวิ่งเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด, ตุกติกต่อการลงบันทึก log book และขับรถภายใต้อิทธิพลของยาเสพติด

เขากล่าวว่า รถบรรทุกที่ขับเร็วกว่ากฎหมายกำหนดและรถที่อยู่สภาพไม่พร้อมต่อการใช้งาน นอกจากจะเสี่ยงต่อชีวิตของพนักงานขับและผู้ใช้รถใช้ถนนอื่น ๆ แล้ว หากเกิดอุบัติเหตุบริษัทเจ้าของรถบรรทุกอาจต้องมีภาระรับผิดชอบค่าเสียหาย ที่ศาลเคยตัดสินในมูลค่าเกินกว่า 1 ล้านเหรียญมาแล้ว ในขณะที่พนักงานขับอาจจะต้องติดคุกถึง 10 ปีสำหรับกรณีขับรถโดยประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง

ทั้งนี้หน่วยปฎิบัติการ Operation Shield ทำการตรวจสอบรถบรรทุกที่สถานีตรวจสอบ Marulan, Chinderah, Daroobalgie, Parkes, Forbes, Cooma, Nimmitabel, Queanbeyan, Kankool, Bell, Mount Boyce, Mount White, Coffs Harbour, Pine Creek, และ Coolac

ในการปฏิบัตรการครั้งนี้มีรถบรรทุกกว่่า 10,000 คันถูกเรียกตรวจสอบ พบรถบรรทุก 770 คันอยู่ในสภาพที่ไม่เหมาะสมต่อการวิ่งบริการ เป็นต้นว่า ระบบเบรกไม่สมบูรณ์, น้ำมันรั่วซืม, ดอกยางสึกหลอ   รถบรรทุก 123 คันถูกออกใบสั่งปรับในเรื่องต่าง ๆ เช่นทะเบียนหมดอายุ, น้ำหนักเกิน, และเรื่องใบอนุญาตขับขี่

จากการสุ่มตรวจระดับแอลกอฮอล์กับพนักงานขับกว่า 3,500 คน ไม่พบว่ามีใครฝ่าฝืนกฎหมายนี้ แต่จากการสุ่มตรวจสอบสารเสพติดในร่างกายกับพนักงานขับ 1,861 คนพบว่ามีผลออกมาเป็นบวกถึง 22 คน ในขั้นต้นพนักงานเหล่านี้จะถูกสั่งห้ามขับรถบรรทุกเป็นเวลา 24 ชั่วโมง จากนั้นจะตามมาด้วยข้อกล่าวหาและหมายศาล

ล้อรถบรรทุกคู่หนึ่งที่หายไป (ภาพชั่วคราวจากนสพ. the Telegraph)

Categories: ข่าวออสเตรเลีย

Tags: ข่าวการจราจร, ข่าวรัฐน.ซ.ว., ข่าวออสซี่, ข่าวออสเตรเลีย, รัฐน.ซ.ว., รัฐนิวเซาท์เวลส์