แนะเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส จับคางคกแคนโทดทำอาหารส่งออก

ศจ. Rick Shine กับคางคกแคนโทด จากสัตว์รบกวนไร้ค่าและสัตว์เศรษฐกิจ

ศจ. Rick Shine กับคางคกแคนโทด จากสัตว์รบกวนไร้ค่าและสัตว์เศรษฐกิจ

10 พ.ย. 2014 ในขณะที่คางคกแคนโทด (cane toad) กำลังขยายถิ่นอาศัยลงมาทางใต้สู่นครซิดนีย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านคางคกได้แนะนำว่า คางคกแคนโทดที่มีหน้าตาน่าเกลียดนี้ สามารถลดจำนวนได้ครึ่งหนึ่ง หากนำมันมาขึ้นเป็นเมนูชวนชิมตามร้านอาหารและภัตตาคาร หรือไม่ก็นำเนื้อของมันที่มีคุณค่าทางอาหารสูงมาแปรรูปหรือแช่แข็งส่งไปขายยังต่างประเทศ

ผู้ออกมาให้ความเห็นครั้งนี้คือศจ. Philip Hayward แห่งมหาวิทยาลัยเซาเทิร์นครอสใน North Coast ของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ได้ออกรายงานวิจัยถึงเรื่องการเปลี่ยนสัตว์รบกวนและสร้างความเสียหาย (pest) ให้เป็นเงิน อย่างเช่นคางคกแคนโทดสามารถนำมาทำเมนูทอดมันแคนโทด, แคนโทดทอดกระเทียมพริกไทย, ผัดใบกะเพราแคนโทด หรืออาหารกินเล่นอย่างแคนโทดคานาเป้ เป็นสินค้าในระดับท้องถิ่นหรือนานาชาติที่สามารถสร้างรายได้อย่างงดงาม

คางคกแคนโทดมีคุณค่าทางอาหาร สามารถนำมันมาสะกัดหรือแปรรูป แล้วตั้งชื่อเป็นอย่างอื่น เชื่อว่าในอนาคตจะเป็นที่นิยมของชาวโลก เหมือนอย่างการแปรรูปรกแกะหรือมูลสัตว์ ยังเป็นสินค้าที่ใช้ทาและใช้กินยอดนิยมของสตรีทั่วโลก

ศจ. Hayward ผู้ซึ่งเคยไปกินกบในประเทศเอเชียมาแล้ว กล่าวว่าเขาจะเสนอผลการวิจัยในการเปลี่ยนการรุกรานและทำลายล้างพืชไร่ของคางคกแคนโทดให้เป็นอาหารในการประชุมอาหารในหัวข้อ SCU Regional Food Cultures and Networks Conference ที่ Byron Bay ในระหว่างวันที่ 16 ถึง 18 พฤศจิกายนนี้

รายงานของเขาบรรยายไว้ว่า คางคกจะสามารถทำกำไรได้งามไม่แพ้ธุกิจเนื้อกบ ซึ่งจำนวนของกบตามธรรมชาติและกบเลี้ยงไม่เพียงพอต่อความต้องการในประเทศที่บริโภคกบอย่างในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้     แต่การเตรียมเนื้อคางคกจำเป็นจะต้องเอาส่วนเป็นพิษออก ก่อนที่จะวางขายในตลาดท้องถิ่นและในต่างประเทศ

ในปัจจุบันมีประชากรคางคกแคนโทดในนอร์เทิร์นเทร์ริทอรีและรัฐควีนสแลนด์มากกว่า 200 ล้านตัว และพวกมันได้เริ่มขยายประชากรลงใต้มาตามเรียบชายฝั่งซึ่งมีอาหารพืชไร่อุดมสมบูรณ์ให้มันกิน

เขากล่าวว่า การจับ ฆ่าและลดประชากรคางคกแคนโทดไม่มีกฎหมายใด ๆ จำกัดหรือปกป้องคุ้มครองมัน และเป็นอุตสาหกรรมอาหารสดและแปรรูปที่มีต้นทุนต่ำ

นอกจากนั้นคางคกแคนโทดยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูง มันให้โปรตีนและโอเมก้า 3 สูงมาก ในปัจจุบันอินโดนีเซียได้ส่งออกเนื้อกบปีละกว่า 5,000 ตัน ส่วนใหญ่ส่งไปยังประเทศฝรั่งเศส, เบลเยี่ยมและลักเซมเบิร์ก โดยเชื่อว่าประเทศเหล่านี้ และประเทศอื่น ๆ จะอ้าแขนต้อนรับเนื้อแคนโทดหากทราบว่ามันมีรสชาติดีและให้คุณค่าทางอาหารไม่ด้อยไปกว่ากบ

คางคกแคนโทดเมื่อโตเต็มที่จะมีความยาวเฉลี่ยประมาณ 24 ซม.และมีน้ำหนัก 1.3 กิโลกรัม

จากรายงานการศึกษาพฤติกรรมของคางคกแคนโทดโดยศจ. Rick Shine แห่งมหาวิทยาลัยซิดนีย์ถึงการขยายถิ่นลงมาทางใต้ของมันพบว่า สามารถเดินทางในอัตราปีละ 10 ถึง 15 กม.ต่อปีไปจนถึง 60 กม.ต่อปีทีเดียว

หมายเหตุ อ่านข่าวเกี่ยวเนื่อง 21 พ.ย. 2014 คลิกที่นี่  “NT ชวนออสซี่เปิบเมนูใหม่เอี่ยม คางคกแคนโทดทอดกระเทียมพริกไทย  

 

jingjonews.com

jingjonews@hotmail.com

จิงโจ้นิวส์เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน   โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์



Categories: ข่าวออสเตรเลีย

Tags: , , , , , , , ,

Leave a Reply

%d