อีโบล่าอาจเข้าประเทศแล้ว หลังพยาบาลกลับจากแอฟริกาล้มป่วย

นสพ. the Daily Telegraph ฉบับ 10 ต.ค. 2014 เสนอข่าวสงสัยนาง Sue Ellen Kovack (ภาพด้านขวา) พยาบาลอาสาสมัครอาจติดเชื้ออิโบล่าจากแอฟริกาก่อนเข้ามาในออสเตรเลีย

นสพ. the Daily Telegraph ฉบับ 10 ต.ค. 2014 เสนอข่าวสงสัยนาง Sue Ellen Kovack (ภาพด้านขวา) พยาบาลอาสาสมัครอาจติดเชื้ออิโบล่าจากแอฟริกาก่อนเข้ามาในออสเตรเลีย

10 ต.ค. 2014 ออสเตรเลียอาจจะเป็นประเทศนอกเหนือแอฟริการายที่ 4 ที่มีผู้ป่วยโรคไวรัสร้ายอีโบล่า หลังจากนาง Sue Ellen Kovack พยาบาลอาสาสมัครสภากาชาดสากลทำงานให้กับโรงพยาบาลในประเทศเซียร์ราลีโอน และเพิ่งเดินทางกลับเข้าประเทศ เธอถูกกักตัวระยะหนึ่งก่อนปล่อยตัวออกมาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ถูกนำส่งโรงพยาบาลในเมือง Cairns รัฐควีนสแลนด์ หลังจากป่วยด้วยอาการคล้ายผู้ป่วยโรคไวรัสอีโบล่า

นาง Kovack พยาบาลจดทะเบียนอนุญาตประกอบโรคศิลป์ขั้นหนึ่งวัย 57 ปีได้เดินทางกลับรัฐควีนสแลนด์ หลังจากเดินทางไปช่วยผู้ป่วยที่โรงพยาบาลของประเทศเซียร์ราลีโอน ในทวีปแอฟริกาที่ซึ่งมีผู้เสียชีวิตจากโรคร้ายแล้ว 3,900 คน โดยเธอใช้เวลาทำงานที่นั่นเป็นเวลา 1 เดือน

เธอเดินทางกลับสู่บ้านที่เมือง Caine โดยแวะผ่านนครเมลเบิร์นและนครเพิร์ทได้เกิดล้มป่วยลง 2 วันหลังจากกลับถึงบ้านซึ่งเธออาศัยอยู่กับเพื่อนคนหนึ่ง

เธอเป็นหนึ่งใน 3 ของพยาบาลอาสาสมัครที่เดินทางกลับจากการอาฟริกา อีกสองคนคือพยาบาลจากบริสเบนและพยาบาลจากซิดนีย์ ทั้งสามคนได้ปฏิบัติตามขั้นตอนของระบบการป้องกันการแพร่เชื้อโรคอย่างรัดกุมด้วยการอยู่ภายในที่อยู่อาศัยอย่างโดดเดี่ยวเป็นเวลา 21 วัน แต่อาการป่วยของนาง Kovack ทำให้เกิดความหวาดกลัวโรคอีโบล่าจะแพร่ระบาดในออสเตรเลีย หากผลการตรวจเชื้ออีโบล่าจากตัวอย่างเลือดออกมาเป็นบวก

ในการให้สัมภาษต่อสื่อมวลชนก่อนเดินทางไปเซียร์ราลีโอน นาง Kovack กล่าวว่า “ฉันไม่เคยกลัวไวรัสอีโบล่า ตราบใดที่ฉันอยู่ในชุด PPE (ชุดอุปกรณ์ปกป้องส่วนบุคคล)”   “สิ่งที่ฉันกลัวคือความเหนื่อยล้า, การทำผิดพลาด หรือคนอื่นทำผิดพลาด และความเจ็บปวดจากผลลัพธ์ที่ตามมา”

ก่อนหน้านี้มีการยืนยันว่า มีผู้ป่วยโรคอีโบล่านอกแอฟริกาแล้วในสามประเทศคือ สหรัฐ, สเปน และเยอรมันนี ผู้ป่วยเกือบทั้งหมดเป็นแพทย์หรือพยาบาลอาสาสมัครขององค์การอนามัยโลกหรือกาชาดิสากลที่ไปทำงานรักษาผู้ป่วยในแอฟริกา และที่สหรัฐนาย Thomas Duncan ผู้ป่วยโรคอีโบล่าคนแรกในสหรัฐเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อวานนี้ที่ 9 ตุลาคม

พญ. Jeannette Young ปลัดกระทรวงสาธารณสุขรัฐควีนสแลนด์กล่าวว่า นาง Kovack มีอาการไข้ระดับต่ำในอุณหภูมิ 37.6 องศาเซลเซียส เธอได้ถูกจับแยกจากคนไข้อื่น ๆ และถูกนำตัวอย่างเลือดส่งมายังห้องแล็บในนครบริสเบนเพื่อทำการตรวจสอบ

เธอกล่าวว่า เชื้อไว้รัสอีโบล่าจะแพร่เชื้อได้โดยสารคัดหลั่งเท่านั้น ดังนั้นโอกาสที่จะติดเชื้อจากคนสู่คนจึงต่ำมาก

ผู้ป่วยโรคอีโบล่าประมาณ 70% จะเสียชีวิตภายใน 8 หรือ 9 วันหลังติดเชื้อ โดยมีอาการอาเจียนอย่างรุนแรง, เจ็บปวด และเลือดออกทางตา, หู และจมูก

โฆษกของกระทรวงสาธารณสุขของรัฐบาลกลาง กล่าวว่าขณะนี้มีแพทย์และพยาบาลที่กลับจากแอฟริกาได้รับการตรวจเลือดหาเชื้ออีโบล่าแล้ว 11 คน ทุกคนถูกกักตัวเป็นเวลา 21 วัน รวมถึงนาง kovack จึงเชื่อว่าโอกาสที่เธอจะติดเชื้ออีโบล่ามีน้อยมาก

อย่างไรก็ตาม ผลการตรวจสอบพบว่า เธอไม่ได้ติดเชื้ออีโบล่าแต่อย่างใด

นสพ. the Age ฉบับ 10 ต.ค. 2014 ลงข่าวพยาบาลล้มป่วยอาการคล้ายอีโบล่า  ภาพขวาคือนาง Sue Ellen Kovack และภาพซ้ายคือชุดที่เธอสวมใส่ตลอดเวลาในการทำงาน

นสพ. the Age ฉบับ 10 ต.ค. 2014 ลงข่าวพยาบาลล้มป่วยอาการคล้ายอีโบล่า ภาพขวาคือนาง Sue Ellen Kovack และภาพซ้ายคือชุดที่เธอสวมใส่ตลอดเวลาในการทำงาน



Categories: ข่าวออสเตรเลีย

Tags: , , , , , ,

Leave a Reply

Discover more from jingjonews

Subscribe now to keep reading and get access to the full archive.

Continue reading