
นสพ. Herald Sun ฉบับ 25 ก.ย. 2014 รายงานข่าวนาย Abdul Numan Haider ก่อการร้ายรายบุุคคลและความกังวลว่าอาจจะมีการล้างแค้นเกิดขึ้น
25 ก.ย. 2014 นาย Abdul Numan Haider วัย 18 ปี ผู้ก่อเหตุแทงนายตำรวจสองคนได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนเขาถูกตำรวจยิงเสียชีวิต ถูกระบุว่าได้ติดต่อกับกลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลาม หรือ ISIS และคอยติดตามความเคลื่อนไหวของนายกรัฐมนตรีและบุคคลสำคัญในรัฐบาล ในขณะที่ประธานคณะกรรมการร่วมเพื่อการข่าวกรองและความมั่นคงแห่งรัฐสภาออสเตรเลีย (PJCIS) ระบุว่า การกระทำของนาย Haider เป็นการก่อการร้ายในออสเตรเลียครั้งแรกนับจากมีคำขอจากผู้นำ ISIS ในประเทศซีเรียเพียงวันเดียว
นาย Andrew Colvin รักษาการแทนผู้ว่าการตำรวจสันติบาลกลาง (AFP) กล่าวว่าพฤติกรรมของนาย Haider เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาทำให้ตำรวจมีความกังวลอย่างมาก และมันก็กลายเป็นจริงเมื่อเขาก่อเหตุในวันที่ 23 กันยายน
นาย Colvin กล่าวว่า ก่อนหน้านั้นตำรวจได้พยายามสอบปากคำเขาหลังจากเขานำธง ISIS เขาไปโบกสะบัดในศูนย์การค้า Dandenong (ไม่ใช่ศูนย์การค้า Endeavour Hills ตามที่เคยเสนอข่าวไปในวันที่ 24 กันยายน)
และความพยายามสังหารตำรวจสองนายที่หน้าสถานนี้ตำรวจ Endeavour Hills ทางตะวันออกของนครเมลเบิร์นถูกนาย Dan Tehan ประธานคณะกรรมการ PJCIS ระบุว่าเป็นการก่อการร้ายต่อบุคคล
นาย Tony Abbott นายกรัฐมนตรี ซึ่งได้รับรายงานเหตุการณ์ในขณะอยู่บนเครื่องบินเดินทางไปนครนิวยอร์กเพื่อพบนาย Barak Obama ประธานาธิบดีสหรัฐและมีวาระแถลงในที่ประชุมสหประชาชาติกล่าวถึงการก่อการร้ายในประเทศว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นชี้ให้เห็นว่ายังมีคนในชุมชน ที่มีขีดความสามารถในการก่อเหตุรุนแรง และยังชี้ให้เห็นว่าตำรวจจะทำการปกป้องประชาชนจากเหตุรุนแรง
ในวันนี้เช่นกันตำรวจในบางรัฐและนายทหารส่วนหนึ่งได้รับอนุญาตให้นำเอาอาวุธของทางการกลับบ้านได้ เพื่อการป้องกันตนและครอบครัว หลังจากเกิดเหตุการณ์ชายชาวตะวันออกกลางสองคนไปเคาะประตูบ้านหลังหนึ่งในย่านซิดนีย์ตะวันตก ถามหานายทหารเจ้าของบ้าน แต่ภรรยาเห็นผิดสังเกตจึงบอกว่าสามีของเธอไม่ได้อยู่บ้าน ทั้งสองจึงจากไป
นาย Stuart Robert รัฐมนตรีช่วยกลาโหมกล่าวในรัฐสภาว่า เขาได้เตือนทหารและสมาชิกในครอบครัวให้เพิ่มระวังเป็นพิเศษ
สำหรับประวัติของนาย Haider เขามีบิดามารดาเป็นผู้อพยพมาจากประเทศอัฟกานิสถานมาอยู่อาศัยที่นครแอดิเลค ก่อนย้ายมาอยู่เมลเบิร์นเมื่อ 7 ปีที่ผ่านมา โดยบิดายึดอาชีพเป็นครูสอนขับรถยนต์
นาย Haider เป็นคนสุภาพที่เคร่งศาสนาและไม่มีวี่แววว่าจะสามารถก่อเหตุร้ายแรงได้ แต่พฤติกรรมของเขาเพิ่งเริ่มเปลี่ยนแปลงเมื่อไม่นาน
ASIO (องค์กรความมั่นคงและข่าวกรองแห่งออสเตรเลีย) พบว่าในปี 2010 ด้วยวัยเพียง 14 ปีเขาเข้าร่วมกับกลุ่มอิสลามหัวรุนแรงที่เกี่ยวข้องกับกลุ่ม Al-Furgan
ในกลาง 2014 นาย Haider ในวัย 18 ปี ได้หลงรักหญิงวัยรุ่นชาวศรีลังกาที่เข้ารีตมานับถือศาสนาอิสลาม แต่ความสัมพันธ์จบลงในระยะเวลาอันสั้น ทำให้เขาอกหักและมีความโกรธแค้นมาก ในช่วงอกหักนี้เองที่เขานำธง ISIS ไปโบกสะบัดในศูนย์การค้า
ในต้นเดือนกันยายน ASIO ตรวจพบว่า นาย Haider เตรียมที่จะเดินทางไปร่วมกับกองโจร ISIS และตรวจพบเขาได้มีการติดต่อกับกลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลามในซีเรีย และใช้สื่อสังคมออนไลน์โจมตีรัฐบาล
ในวันที่ 16 กันยายนกระทรวงต่างประเทศได้ยกเลิกหนังสือเดินทางของเขา อีกสองวันต่อมาในวันที่ 18 กันยายนนาย Haider ถือธงสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลามในศูนย์การค้า Dandenong
ASIO พบเขาใช้อินเทอร์เน็ตในการติดตามความเคลื่อนไหวของรัฐมนตรีรายสำคัญของประเทศโดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี และใช้สื่อสังคมออนไลน์โจมตีรัฐบาลหนักขึ้น
ในตอนบ่ายของวันอังคารที่ 23 กันยายน ตำรวจได้บุกเข้าค้นบ้านของนาย Haider ในขณะที่เขาไม่อยู่บ้าน เมื่อกลับเข้ามาในตอนเย็น นาง Suraya Haider มารดาบอกกับเขาว่า ตำรวจได้มาทำการค้นห้องนอนของเขา เขาโทรมาต่อว่าตำรวจว่าละเมิดความเป็นส่วนตัวของเขา ในที่สุดตำรวจจึงต่อรองขอเปลี่ยนมาเป็นขอเชิญเขามาเจรจากันที่สถานีตำรวจ
ในเวลาประมาณ 19.40 น.นาย Haider ขับรถมาจอดที่หน้าสถานีตำรวจ นายตำรวจสองนายได้ออกมาต้อนรับเขาถึงที่รถ ในช่วงที่สัมผัสมือกันนาย Haider ได้ใช้มีดที่เตรียมไว้แทงนายตำรวจสันติบาลกลางที่ศีรษะ, คอ, ท้องและข้อมือ จากนั้นจึงแทงนายตำรวจรัฐวิกตอเรียที่แขนจำนวนสองแผล เขาจึงถูกนายตำรวจที่มาประสบเหตุชักปืนยิงเพียงนัดเดียวเสียชีวิตทันที เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นภายในนาทีเดียว
ในเวลา 20.00 น. ตำรวจค้นพบมีดเล่นที่ใหญ่กว่าซ่อนอยู่ที่ถุงเท้าของผู้ตาย ที่เชื่อว่าอาจเตรียมไว้ใช้สำหรับตัดคอเหยื่อ
หมายเหตุ เพื่อป้องกันหัวข้อข่าวของจิ้งโจ้นิวส์ถูกลบออกจากระบบการ search ของ google ท่านที่ต้องการติดตามข่าวจิงโจ้นิวส์ ขอให้จด jingjonews.com เอาไว้ จะไม่พลาดในการเข้าอ่านข่าวและบทความของเรา ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ และสามารถให้ความเห็นได้ที่ jingjonews@hotmail.com
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply