นาย Tony Halloun ถูกนำตัวกลับเข้ากรงขังหลังจากศาลฏีการัฐน.ซ.ว.ตัดสินมีความผิด

23 ก.ย. 2014 คดีนาง Shanaz Qidwai วัย 65 ปีถูกนาย Tony Halloun วัย 35 ปีสังหารภายในคฤหาสน์ Burnham Castle ของเธอในย่าน Henley ใกล้กับ Gladesville ในวันที่ 15 มิถุนายน 2012 (ตามที่จิงโจ้นิวส์เคยเสนอข่าวไปในวันที่ 23 มีนาคม 2014 ในหัวข้อข่าว “จับคนร้ายฆ่าเศรษฐีนี ที่แท้เป็นคนรู้จักกันมานาน”) เมื่อวานนี้ที่ 22 กันยายนคณะลูกขุนศาลฎีการัฐน.ซ.ว.ลงความเห็นให้นาย Halloun มีความผิดในข้อหาเจตนาฆ่านาง Qidwai ผู้ที่รู้จักคุ้นเคยกันดีในฐานะคนนับถือศาสนาเดียวกันและในฐานะนายจ้างผู้ให้งานซ่อมแซมคฤหาสน์ติดต่อกันมาเป็นเวลาหลายปี

นาง Qidwai เสียชีวิตจากการถูกของแข็งตีที่ศีรษะและหน้าอกซึ่งผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าอาจมีการช๊อตด้วยเครื่องซ๊อตไฟฟ้า ในขณะเกิดเหตุนาย Halloun มีหนี้สินติดตัว 97,000 เหรียญ ในจำนวนนี้ 72,000 เหรียญเขายืมมาจากนาง Qidwai โดยเชื่อว่าเขาทำการสังหารเพื่อขโมยเงินจำนวน 4,000 เหรียญและสร้อยคอ เนื่องจากมันได้หายไปจากบ้านในวันเกิดเหตุ

ก่อนการสังหารนาย Halloun ยังไปทวงเงินค่าทำทางคอนกรีตเข้าคฤหาสน์งวดสุดท้ายจำนวน 3,500 เหรียญจากนพ. Khalid Qidwai สามีของผู้ตายที่คลีนิคของเขา     แต่ได้รับการปฏิเสธ ก่อนจากไปเขาได้ทิ้งคำพูดปริศนาว่า “แล้วผมจะได้มันในที่สุด”

ในระหว่างการสอบปากคำเข้าได้เปลี่ยนคำให้การถึงสี่ครั้ง ในการให้ปากคำครั้งแรกเขากล่าวว่าวันนั้นเขาทำงานอยู่นอกบ้านทั้งวัน โดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นภายในบ้าน

แต่เมื่อรู้ว่าเขาพลาดไปในวันรุ่งขึ้น เขาจึงมาที่สถานีตำรวจให้การใหม่ว่า วันเกิดเหตุเขาได้เข้าไปในบ้านเพื่อนั่งดื่มชา นาง Qidwai ได้ลูบหลังเขาและกอดให้กำลังใจเขา ทำให้ DNA อาจพบในตัวของเธอ

แต่บรรดาลูก ๆ ของผู้ตายอ้างว่า มารดาของเธอเป็นมุสลิมที่เคร่งครัด ผู้ที่จะไม่ทีทางกอดชายคนใด แม้กระทั่งสัมผัสมือ และพญ. Hana Saeed หนึ่งในบุตรสี่คนของผู้ตายให้การว่า ก่อนเสียชีวิตหนึ่งวันมารดาได้บอกกับเธอว่า เธอหวาดกลัวนาย Halloun ที่มีท่าทีแปลก ๆ คอยเข้ามาด่อม ๆ มอง ๆ ดูข้าวของภายในบ้าน

การกลับคำให้การครั้งที่สามเกิดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา เขาได้โทรศัพท์เรียกตำรวจนักสืบจากเรือนจำให้การว่า ในวันเกิดเหตุเขาเข้าไปในบ้านพบชายสามคนมีผ้าคลุมศีรษะและมีปืนทุกคน พูดกับเขาว่า “เรามาที่นี่ไม่เกี่ยวกับคุณ” ในระหว่างโจรกรรมทำให้เขาทราบว่าชายทั้งสามมีชื่อว่า Gus, Moey และ Omar พวกเขาบังคับให้นาย Halloun เข้าจับนาง Qidwai ที่ศีรษะด้านหลัง และบังคับให้เขาเอากล้อง CCTV บันทึกภาพใส่ลงในถุงและย้งติดตามข่มขู่เขาเป็นเวลาหลายเดือน

และครั้งที่สี่ในขณะขึ้นให้การที่คอกพยานภายในศาลฎีกา เขาสารภาพว่าเขาโกหกในการให้ปากคำในครั้งที่สาม เพียงเพื่อต้องการออกจากคุก เพราะเขารู้สึกเอือมระอาและหวาดกลัวต่อการถูกเพื่อนนักโทษข่มขู่ และยืนยันว่าคำให้การครั้งที่สองเป็นเรื่องจริง

อย่างไรก็ตามหลังจากพิจารณาหลักฐานต่าง ๆ คณะลูกขุนที่ได้ลงความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่าจำเลยมีความผิด   ส่วนวันตัดสินลงโทษผู้พิพากษาจะกำหนดต่อไป

นาง Qidwai ผู้ตายและสามีลี้ภัยมาจากประเทศปากีสถานเมื่อ 40 ปีที่ผ่านมา เป็นครอบครัวที่ได้รับการนับหน้าถือตาในชุมชนปากีสถานในซิดนีย์ ผู้เป็นสามียึดอาชีพศัลยแพทย์โดยมีคลีนิกที่ย่าน Croydon ทั้งสองมีบุตรสาว 3 คนบุตรชาย 1 คน บุตรสาวคนโตและคนรองเป็นแพทย์ตามบิดา บุตรสาวคนสุดท้องเป็นทันตแพทย์ ส่วนบุตรชายเป็นวิศวกร

ในวันที่ 5 ธันวาคม 2014 ผู้พิพากษาหญิง Lucy McCallum แห่งศาลฎีการัฐน.ซ.ว.ได้ตัดสินลงโทษจำคุกนาย Halloun เป็นเวลา 24 ปี และให้สิทธิ์ทำเรื่องขอปล่อยตัวอย่างมีทัณฑ์บนได้หลังจากจำคุกไปแล้ว 17 ปี เมื่อรวมเวลาที่เขาถูกจำคุกในระหว่างพิจารณาคดี เขามีโอกาสออกจากคุกได้อย่างเร็วที่สุดในปี 2029 ในขณะอายุ 50 ปี

หมายเหตุ อ่านข่าวต่อเนื่อง
 23 มี.ค. 2014 คลิกที่นี่ “จับคนร้ายฆ่าเศรษฐีนี ที่แท้เป็นคนรู้จักกันมานาน“

คฤหาสน์ Burnham Castle

Categories: ข่าวออสเตรเลีย

Tags: ข่าวรัฐน.ซ.ว., ข่าวออสซี่, ข่าวออสเตรเลีย, ข่าวอาชญากรรม, ปากีสถาน, รัฐน.ซ.ว., รัฐนิวเซาท์เวลส์