19 ก.ค. 2014 วัยรุ่นจากย่านตะวันตกของซิดนีย์กลายเป็นชาวออสเตรเลียคนที่สองที่ปฏิบัติการระเบิดพลีชีพเพื่ออุทิศตนให้กับพระเจ้าด้วยการระเบิดตัวเองที่ตลาดในย่าน Shorja กลางกรุงแบกแดดส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 5 คนรวมถึงตัวของเขาและมีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 90 คน
วัยรุ่นรายดังกล่าวถูกฝ่ายกบฎเปิดเผยทางสื่อสังคมออนไลน์ว่าชื่อนาย Abu Bakr al Australi ได้เดินทางออกจากซิดนีย์ในปีที่ผ่านมาเพื่อร่วมกองกำลังกบฎในซีเรียในขณะอายุ 16 ปีขณะอุทิศชีวิตให้พระเจ้าเขาอยู่ในวัย 17 ปี
ทางด้านหน่วยข่าวกรองออสเตรเลียยืนยัน ถึงความถูกต้องของอายุของวัยรุ่นรายนี้และเป็นผู้มาจากซิดนีย์ตะวันตก โดยเชื่อว่าเขาเดินทางไปตะวันออกกลางกับวัยรุ่นชาวออสซี่อีกจำนวนหนึ่งเพื่อเข้าร่วมกับ “กองโจรแบ่งแยกดินแดนรัฐอิสลามอิรักและซีเรีย” หรือ ISIS ทำการสู้รบกับรัฐบาลซีเรียและอิรัก นอกจากนั้นยังพบว่าเด็กหนุ่มผู้นี้เป็นลูกพี่ลูกน้องกับนาย Khaled Sharrouf นักโทษคดีก่อการร้ายอีกด้วย
แหล่งข่าวกล่าวว่า ผู้บริหารระดับสูงของหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ หรือ ASIO มีความกังวลว่าระเบิดพลีชีพ และความเห็นแตกแยกกันในสถานการณ์ที่ซีเรียและอิรัก จะเป็นชวนให้เกิดความแตกแยกกันระหว่างชาวมุสลิมนิกายชีอะห์และนิกายซุนนี่ในออสเตรเลีย โดยเฉพาะในนครซิดนีย์
ในขณะที่ชุมชนมุสลิมกลุ่มหนึ่ง ตำหนิการกระทำของวัยรุ่นอายุ 17 ปีว่า เป็นสิ่งชั่วร้ายและเอาชีวิตไปทิ้งอย่างไร้ค่า แต่ชุมชนอีกกลุ่มหนึ่งกลับสรรเสริญว่าเขาคือวีรบุรุษผู้ได้เปลี่ยนจากนักรบของพระเจ้าไปสู่ขั้น “อัศวิน” ของพระเจ้าที่เดียว
หลังจากระเบิดจบสิ้นลง กล่ม ISIS ได้ออกมาอ้างว่าเป็นการกระทำของฝ่ายตน และอ้างถึงวีระบุรุษที่ยอมจุติเพื่อไปเป็นเทพ (myth) คนใหม่คือนาย Abu Bakr al Australi
กลุ่ม ISIS อ้างว่านาย Australi ได้จุดชนวนระเบิดตรงบริเวณสุเหร่าของนิกายชุนนี่ในตลาดเมือง Shorja กรุงแบกแดด สามารถปฏิบัติงานอย่างบรรลุเป้าหมายด้วยการฆ่าและทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 90 คน
นาย George Brandis ร.มว.สำนักงานอัยการของรัฐบาลกลางได้ออกมากล่าวตำหนิเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ตามที่มีข่าวว่าชาวออสเตรเลียถูกกล่าวหาว่ามีส่วนในเหตุการณ์ระเบิดพลีชีพในอิรัก ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ถือว่าเป็นการคุกคาม และซ้ำเติมให้สถานการณ์ในอิรักมีอันตรายและเลวร้ายขึ้นไปอีก
หากข้ออ้างของฝ่าย ISIS เป็นจริง วัยรุ่นวัย 17 ปีจะเป็นชาวออสเตรเลียคนที่สองที่กระทำการระเบิดพลีชีพในซีเรียและอีรัก
เหตุการณ์ระเบิดเกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลถึงความปลอดภัยของชุมชนในประเทศ หลังจากหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ ASIO ได้รายงานว่า มีวัยรุ่นที่ไปฝึกการก่อวินาศกรรมและร่วมรบในซีเรียและอิรักได้แอบกลับเข้ามาในประเทศแล้วระหว่าง 40 ถึง 50 คน โดยส่วนใหญ่มีบ้านอยู่อาศัยในซิดนีย์ตะวันตกและตะวันตกเฉลี่ยงใต้ ซึ่ง ASIO ได้ทำการติดตามอย่างใกล้ชิด
วันที่ 21 กรกฎาคม นาย George Brandis ร.มว.สำนักงานอัยการของรัฐบาลกลางได้แถลงอย่างเป็นทางการว่า วัยรุ่นที่ทำการระเบิดพลีชีพเป็นชาวออสเตรเลียตามที่ข่าวเสนอมาก่อนหน้านี้
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply