
นสพ. Mercury ฉบับ 7 ก.ค. เสนอข่าวตามล่าน.ส. Lisa Marie Smith อดีตผู้ต้องหาหนีคดียาเสพติดไทย และภาพต้นฉบับของเธอที่ด้านขวา
7 ก.ค. 2014 น.ส. Lisa Marie Smith อดีตนักศึกษามหาวิทยาลัยที่สามารถเย้ยกฎหมายของไทยด้วยหลบหนีออกนอกประเทศในระหว่างรอพิจารณาคดียาเสพติด จนทำให้ถูกตำรวจสากลขึ้นปัญชีเป็นอาชญากรหญิงที่ต้องการตัวมากที่สุดเมื่อ 18 ปีที่แล้ว บัดนี้เชื่อกันว่าเธอได้หลบหนีอยู่ในกรุงดับลินของประเทศสาธารณรัฐไอร์แลนด์
น.ส. Smith อดีตนักเรียนโรงเรียน St Michael’s Collegiate ในนครโฮบาร์ทรัฐแทสมาเนีย ถูกตำรวจไทยจับได้ที่สนามบินดอนเมืองในเดือนกุมภาพันธ์ 1996 ในขณะกำลังขึ้นเครื่องไปยังประเทศญี่ปุ่น โดยเจ้าหน้าที่ค้นพบฝิ่นดิบหนัก 4 กิโลกรัมและยาบ้าจำนวน 565 เม็ดซุกซ่อนอยู่ที่ฐานของกระเป๋าเดินทางใบหนึ่ง
เบื้องหลังของการถูกจับกุมครั้งนี้ เริ่มมาจากนาย Terry Smith บิดาซึ่งเป็นผู้บริหารบริษัทการเงินและการประกันชีวิตข้ามชาติในสาขาฮ่องกง ได้ให้ของขวัญบุตรสาวในช่วงวันปิดเทอมด้วยแพคเกจทัวร์เที่ยวเมืองไทย ซึ่งเป็นประเทศที่เขาชื่นชอบ และอยากให้บุตรสาวได้มาเที่ยว
ที่ประเทศไทยเธอได้รู้จักกับชายหนุ่มหน้าตาดีชาวปากีสถานที่เธอรู้จักแต่ชื่อว่า Hassa จนเกิดมีใจเสน่หา ต่อมาชายที่ชื่อ Hassan ได้ชวนเธอไปเที่ยวญี่ปุ่น โดยเขาเสนอออกค่าตั๋วเครื่องบินให้เธอบินตามไปทีหลัง แต่ขอฝากกระเป๋าไว้หนึ่งใบ เนื่องจากเขาเองมีสัมภาระขึ้นเครื่องที่มีน้ำหนักเกิน โดยเธอหารู้ไม่ว่ากระเป๋าใบนี้ได้เปลี่ยนชีวิตของเธอ จากสาวน้อยในครอบครัวมีอันจะกิน ไปสู่ผู้หลบหนีคดีที่มีโทษสูงสุดถึงประหารชีวิต
กล่าวกันว่าน.ส. Smith เป็นผู้ต้องหาคดียาเสพติดในปริมาณมากชาวต่างชาติคนแรกที่ได้รับการประกันตัวในระหว่างรอการพิจารณาคดี หลังจากเธอถูกฝากขังในเรือนจำไทยหรือที่ชาวต่างชาติให้ฉายาว่า “Bangkok Hilton” มาเป็นเวลา 5 เดือน ในการให้ประกันตัวครั้งนั้นเจ้าหน้าที่ไทยได้ยึดหนังสือเดินทางสหราชอาณาจักรของเธอ แต่ไม่ได้ยึดหนังสือเดินทางออสเตรเลีย
ทางการไทยมารู้ตัวว่าน.ส. Smith ขึ้นเครื่องบินหลบหนีไปประเทศกรีกซึ่งไม่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนกับไทย เมื่อเธอไม่มาปรากฎตัวตามนัดที่ศาลในอีกสามเดือนต่อมา จึงมีการแจ้งตำรวจสากลออกหมายจับทั่วโลก
หลังจากที่เธอไปถึงประเทศกรีกเธอได้ไปทำเรื่องขอทำหนังสือเดินทางสหราชอาณาจักรฉบับใหม่ที่สถานทูตอังกฤษในกรุงเอเธนส์ โดยแจ้งว่าหนังสือเดินทางของเธอถูกขโมยไป
จากการสืบสวนพบว่าหลังจากเธอได้ท่องเที่ยวอยู่ที่เมือง Santorini ในประเทศกรีกแล้ว เธอได้หายตัวไปอย่างลึกลับ
ในช่วง 18 ปีที่ผ่านมา มีฤทษฎีและเรื่องเล่าต่าง ๆ นานา ที่ที่หลบหนีของเธอตามมุมต่าง ๆ ของโลก และครั้งหนึ่งตำรวจสามารถตามไปจับผู้ต้องสงสัยที่มั่นใจว่าเป็นน.ส. Simth ผู้ต้องหาตัวจริง แต่ก็ปรากฎว่าเป็นคนละคนที่ใช้ชื่อ Lisa Marie Smith เหมือนกัน ผู้ที่เมีวันเดีอนปีเกิดเดียวกัน แถมมีน้ำหนักตัว 60 กก.ใกล้เคียงกัน และมีส่วนสูง 164 ซม.เท่ากันเสียอีก
อย่างไรก็ตามจากหลักฐานล่าสุด น.ส. Smith ปัจจุบันอายุ 38 ปี พบว่าได้ทำธุรกิจคาเฟ่ระดับไฮโซร่วมกับแฟนหนุ่มอยู่ในกรุงดับลิน ตำรวจสากลมีหลักฐานเชื่อโยงได้ว่า ผู้อยู่เบื้องหลังและเป็นนายทุนในธุรกิจคาเฟ่แห่งนี้คือบิดาผู้ร่ำรวยของน.ส. Smith นั่นเอง
ตำรวจยังกล่าวว่า หลักฐานใบขับขี่ที่ใช้ในการติดต่อทำธุรกรรมในปัจจุบัน เธอยังคงเป็นชื่อ Lisa Smith และใช้วันเดือนปีเกิดที่แท้จริงของเธอ
ไม่มึใครทราบว่าทำไมน.ส. Smith ถึงสามารถหลบหนีรอดมาได้ถึงปัจจุบัน แต่หนังสือพิมพ์ the Herald Sun กล่าวไว้ว่า “Money talks and bull—- walks” จิงโจ้นิวส์ก็ไม่ทราบความหมายนี้
นักวิชาการรายหนึ่งที่ไม่ขอเปิดเผยนามกล่าวว่า สำหรับเขาแล้วอยากให้เรื่องของน.ส. Smith จบลงและปล่อยให้เธอดำเนินชีวิตอย่างหลบหนีต่อไป ก็ถือว่าเป็นการลงโทษที่โหดร้ายพอแล้ว สำหรับผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่เขาเชื่อว่าไม่ใช่คนผิดโดยสันดาน แต่เชื่อว่าเธอเป็นเหยื่อของอาชญากรตัวจริง หากเทียบกับคดีของสตรีคนหนึ่งที่ถูกจำคุกอยู่ที่บาหลี คดีนี้ชาวออสเตรเลียมองเธอว่าเป็นฮีโร่ รัฐบาลกลางก็ทุ่มทั้งกำลังสมองและกำลังทรัพย์ในความพยายามช่วยเหลือเธอออกมา แต่ความจริงเบื้องหลังหากไม่ใช่เธอ ก็น่าจะเป็นสมาชิกคนใดคนหนึ่งในครอบครัวที่เอายาเสพติดใส่ในกระเป๋าของเธอ
jingjonews.com
jingjonews@hotmail.com
Jingjonews เป็นสื่อออนไลน์มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข่าวสาร, บทความและประชาสัมพันธ์เพื่อชุมชน โดยปลอดจากการโฆษณาในเชิงพาณิชย์
Categories: ข่าวออสซี่ในเมืองไทย, ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply