14 พ.ค. 2014 ด้านสาธารณสุข ค่าปรึกษาแพทย์ที่เคยบริการพรี ต่อไปจะต้องเสียเงิน 7 เหรียญ ต่่อการพบแพทย์ในแต่ละครั้ง เพื่อปรึกษาโรค ฟังผลการตรวจเลือด หรือเอกซ์เรย์ โดยนโยบายใหม่จะเริ่มในวันที่ 1 มกราคมปี 2015 เงินที่ประหยัดได้คาดว่าประมาณ 20 พันล้านเหรียญจะถูกโอนเข้ากองทุน Medical Research Future Fund ที่จะเป็นกองทุนเพื่อการวิจัยทางการแพทยที่ใหญ่ที่สุดในโลก
คนไข้จะต้องจ่ายเงินค่าใบสั่งยาเพิ่มขึ้นอีก 5 เหรียญหลังจากค่ายาตามใบสั่งแพทย์เพิ่มขึ้นเป็น 42.70 เหรียญ เพื่อที่รัฐบาลจะสามารถประหยัดงบประมาณได้ 1.3 พันล้านเหรียญ โดยรัฐบาลอ้างว่าการเพิ่มขึ้นจะช่วยให้โครงการสิทธิประโยชน์ทางยารักษาโรค (PDS) มีเสถียรภาพ ในด้านผู้รับสวัสดิการผู้สูงอายุค่ายาตามใบสั่งแพทย์จะเพิ่มขึ้นจาก 6.10 เหรียญเป็น 6.90 เหรียญ
สำหรับคนไข้ที่ต้องพึ่งใบสั่งยาจำนวนมาก จะถูกปกป้องด้วยระบบคุ้มครองการรักษาพยาบาลที่เรียกว่า safety net ในการลดค่าใช้จ่ายยารักษาโรคหลังจ่ายค่ายาไปจำนวนหนึ่ง
ทั้งนี้คนไข้ทั่วไปจะต้องจ่ายค่ายา 1,597.80 เหรียญในหนึ่งปี จึงจะได้การคุ้มครอง safety net หรือพวกเขาจะต้องจ่ายเพิ่มขึ้น 145.30 จากในปัจจุบัน หลังจากนั้นค่าใช้จ่ายจะลดจาก 42.90 เหรียญลงเหลือ 6.90 เหรียญ
ผู้รับเงินสวัสดิการผู้สูงอายุจะได้คุ้มครอง safety net และรับยาตามใบสั่งแพทย์ฟรี หลังจากจ่ายค่ายาไปแล้ว 60 ครั้งในหนึ่งปี
งบประมาณให้กับโรงพยาบาลของรัฐจะถูกตัดลง 2 พันล้านเหรียญหลังจาก รัฐบาลกลางเจรจากับรัฐบาลรัฐรอบใหม่ โดยรัฐบาลรัฐจะมีอำนาจในการการกำหนดค่าธรรมเนียมในรูปแบบ GP สำหรับประชาชนผู้ใช้บริการแผนกรับคนไข้ฉุกเฉิน
ทางด้านส่วนลดเมดิแคร์สำหรับการรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและบริการทางการแพทย์ทุกชนิดยกเว้น GP จะถูกแช่แข็ง นั่นหมายความว่ามันจะทำให้คนไข้ต้องเผชิญกับรายจ่ายค่ารักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น เนื่องจากแพทย์ได้เพิ่มค่าธรรมเนียมตามอัตราเงินเฟ้อ แต่เงินช่วยจากรัฐบาลยังเท่าเดิม
รัฐบาลตัดลดเงินช่วยด้านบริการทำฟันของโรงพยาบาลรัฐลง 390 ล้านเหรียญ จะส่งผลให้ประชาชนจำนวนหลายพันคนถูกตัดออกจากทำฟันในโรงพยาบาลของรัฐ
ครอบครัวที่ได้รับผลประโยชน์ทางภาษี จะต้องจ่ายเงินเพิ่มอีก 46 เหรียญในการเข้ารักษาพยาบาล ก่อนที่จะมีคุณสมบัติได้รับความคุ้มครอง safety net
นสพ. Courier Mail ฉบับ 14 พ.ค. 14 รายงานงบประมาณปี 2014
ด้านการสาธารณูประโภค เป็นงบประมาณเดียวที่ได้รับการชมเชยว่า ดีกว่ารัฐบาลในทุกยุคทุกสมัย โดยเฉพาะด้านการขนส่ง ที่รัฐบาลในอดีตไม่กล้าแลกกับการเสียคะแนนนิยม หากต้องตัดงบด้านสวัสดิการเอามามาใช้ในส่วนนี้ ด้วยการใช้งบ 50 พันล้านเหรียญในอีก 7 ปีข้างหน้ากับการลงทุนในด้านการขนส่ง โดยจำนวนเงินที่รัฐบาลกลางใช้ 39 พันล้านเหรียญเหนือกว่าการคาดหมาย (รวมถึงโครงการที่ค้างมาในปี 2013-14) ซึ่งการใช้งบรายจ่ายจะเป็นไปตามความเห็นชอบของสภารัฐบาลรัฐแห่งออสเตรเลีย หรือ COAG ภายใต้ข้อตกลง Commonwealth’s Asset Recycling Initiative ที่ทำขึ้นเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา#สำหรับโคงการสาธารณูประโภค ที่ถูกขึ้นบัญชีก่อสร้างในรัฐต่าง ๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ประกอบด้วย
1. รัฐน.ซ.ว.ในโครงการทางด่วน Pacific Highway 5.6 พันล้านเหรียญ / WestConnex 1.5 พันล้านเหรียญ / แผนการสาธารณูปโภคสำหรับซิดนีย์ตะวันตก 2.9 พันล้านเหรียญ
2. รัฐวิกตอเรีย โครงการเชื่อมต่อ East West Link 3.0 พันล้านเหรียญ / โครงการรถไปสู่ภูมิภาค 1.5 พันล้านเหรียญ
3. รัฐควีนสแลนด์ โครงการทางด่วน Bruce Highway / ทางด่วน Gateway Motoway North 0.9 พันล้านเหรียญ / Legacy Way 400 ล้านเหรียญ / Warrego Highway 500 ล้านเหรียญ
4.รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลีย โครงการเชื่อมต่อ Perth Freight Link 0.9 พันล้านเหรียญ / Gateway WA 600 ล้านเหรียญ / Swan Valley Bypass 600 ล้านเหรียญ
5.รัฐเซาท์ออสเตรเลีย โครงการ North South Corridor Adelaide 0.9 พันล้านเหรียญ / Goodwood and Torrens Junction 200 ล้านเหรียญ
6.รัฐแทสมาเนีย โครงการทางด่วน Midland Higway 400 ล้านเหรียญ / Freight Rail Revitalisation 100 ล้านเหรียญ
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply