09 พ.ค. 2014 ศูนย์แบบจำลองทางสังคมและเศรษฐกิจแห่งชาติ (NATSEM) แห่งมหาวิทยาลัยแคนเบอร์รา รายงานว่ามีครอบครัวชาวออสเตรเลียเกือบครึ่งหนึ่งคือ 48% หรือ 12.2 ล้านครอบครัว อยู่ในสภาพไม่ได้เสียภาษี เนื่องจากภาษีใด ๆ ที่พวกเขาจ่ายไปได้ถูกหักล้างด้วยเงินสวัสดิการไม่ว่าจะเป็นเงินช่วยเหลือสวัสดิการว่างงาน, ภาษีผลประโยชน์ครอบครัว หรือเงินช่วยเหลือค่าเลี้ยงดูเด็กที่พวกเขาได้รับ
จากการวิจัยยังได้แยกรายละเอียดประเภทของครอบครัว พบว่าเกือบทุกประเภทดำรงชีพอยู่ได้จากการพึ่งพาเงินช่วยเหลือของรัฐบาล ซึ่งศจ. Ben Phillips หัวหน้าผู้ทำการวิจัยกล่าวว่าผลการศึกษาครั้งนี้อาจทำให้ช็อกกันทั้งประเทศ แต่มันก็เป็นความจริง
เขากล่าวว่า ชาวออสเตรเลียหลายคนออกมาบ่นว่า พวกเขาเสียภาษีมากเกินไป และได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลน้อยมาก แต่พวกเขาหารู้ไม่ว่า พวกเขาไม่เคยเสียภาษีเลย แถมยังได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลอย่างเป็นกอบเป็นกำ
จากการศึกษาพบว่าครอบครัวเดี่ยวหรือครอบครัวที่มีบิดาหรือมารดาเลี้ยงบุตรโดยลำพัง 85% ไม่ได้เสียภาษี หากเอาผลประโยชน์ทางภาษีที่พวกเขาได้รับมาหักลบ, ประเภทต่อมาบุคคลเดี่ยวที่อยู่อาศัยตามลำพัง มีจำนวนไม่น้อยพึ่งเงินสวัสดิการของรัฐ ทำให้ 55% บุคคลเดี่ยวไม่ได้เสียภาษี, รายต่อมาครอบครัวที่มีแต่สามีและภรรยาโดยไม่มีบุตร พบว่าประมาณ 50% ไม่ได้เสียภาษี, สำหรับครอบครัวสามีภรรยาที่มีบุตร และลูก ๆ ของพวกเขาได้รับการศึกษาที่ดีมีแนวโน้มจะได้งานที่ดีทำในอนาคตประมาณ 25% ของคนกลุ่มนี้ไม่ได้เสียภาษี
ศูนย์การศึกษาอิสระ Centre foe Independent Studies Stephen Kirchner ซึ่งร่วมทำการวิจัยครั้งนี้ด้วยกล่าวว่า เงินสวัสดิการผู้สูงอายุและเงินสวัสดิการผู้ว่างงานควรจะถูกควบคุม ในขณะที่ภาษีผลประโยชน์ครอบครัว-แผน B ควรจะถูกยกเลิก ในงบประมาณปี 2014 ที่จะแถลงในวันอังคารที่ 13 พฤษภาคม ตามคำแนะนำของคณะกรรมการตรวจกิจการแผ่นดิน ถ้าหากรัฐบาลมีความกล้าหาญพอ
ศูนย์พบว่า ครอบครัวออสเตรเลียโดยเฉลี่ยเสียภาษีเงินได้ปีละ 12,936 เหรียญ และรับเงินผลประโยชน์เฉลี่ยปีละ 9,515 เหรียญ เหลือเงินภาษีที่แท้จริงเข้าคลังเฉลี่ยครอบครัว 3,424 เหรียญ
(ท่านสามารถอ่านข่าวออสเตรเลียรายวันได้ที่ jingjonews.com)
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply