27 เม.ย. 2014 นาย Matt Lockley ช่างประปาวัย 27 ปีจากเมือง Tweed Heads ได้พาดัวเองเสี่ยงอันตรายและอาจใช้ชีวิตระยะยาวในคุก จากความเซ่อซ่าของเขาที่เดินไปทุบประตูเข้าห้องนักบินของสารการบิน Virgin Airline เที่ยวบิน VA41 ในระหว่างที่เขาเดินทางออกจากนครบริสเบนไปยังบาหลี พอเครื่องบินจอดที่สนามบินนานาชาติ Denpasar บนเกาะบาหลี ทหารและตำรวจปราบปรามผู้ก่อการร้ายพร้อมอาวุธหนักหลายสิบนายได้จู่โจมขึ้นไปบนเครื่องบิน ลากตัวนาย Lockley ลงจากเครื่องบินอย่างถูลู่ถูกังเพื่อนำตัวไปสอบสวน เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นในวันศุกร์ที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา
เนื่องจากเป็นคดีเกี่ยวกับความมั่นคง นาย Lockley จึงถูกคุมกันอย่างหนาแน่นนำตัวไปสอบปากคำที่แผนกอาชญากรรมพิเศษ ของสำนักงานใหญ่ตำรวจเมือง Denpasar #นาย Lockley จากเมือง Tweed Heads ทางเหนือสุดของรัฐน.ซ.ว.ถูกสอบปากคำโดยมีผู้อำนวยการใหญ่กรมการบินพลเรือนของอินโดยนีเซียร่วมสอบปากคำ และมีเจ้าหน้าที่จากสถานกงสุลออสเตรเลียประจำบาหลีเข้าร่วมเป็นสักขีพยาน
รายงานผลการสอบสวนพบว่า นาย Lockley อยู่ในอาการคล้ายคนเมาเหล้าหรือเมายาในขณะที่เขาไปเคาะประตูห้องนักบิน แต่การสอบปากคำต้องหยุดลง เนื่องจากเขามีอาการเวียนศีรษะและอาเจียนตลอดเวลา จึงถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ
ต่อมาในวันอาทิตย์ที่ 27 เมษายนหลังจากนาย Lockley มีอาการดีขึ้น จึงถูกนำตัวกลับมาให้ปากคำ โดยมีนพ. Jaoweny Lolo แพทย์ประจำโรงพยาบาลตำรวจผู้ทำการรักษาเขาติดตามมาด้วย และมีเพื่อนจำนวนหนึ่่งตามมาให้กำลังใจ และซื้อพิซซ่าให้เขากิน
นาย Lockley ให้การว่าขณะอยู่ที่สนามบินนครบริสเบนเขาได้ดื่มโค้กไป 2 กระป๋องและยาแก้ปวดสองชนิดเท่านั้น ส่วนเหตุที่เอามือไปตบประตูห้องนักบินก็เพราะเขาคิดว่าเป็นห้องน้ำ สำหรับผลการตรวจสารเสพติดและแอลกอฮอล์เบื้องต้นออกมาในแนวเดียวกับที่นาย Lockley ให้ปากคำ แต่ต้องรอผลตรวจอย่างเป็นทางการอีกระยะหนึ่ง
ต่อมานาย Rudi Richardo หัวหน้าฝ่ายสืบสวนและการรักษาความปลอดภัยทางอากาศจากกระทรวงการขนส่งของอินโดนีเซียได้กล่าวว่า การสอบปากคำนาย Lockley เป็นไปอย่างราบรื่น ไม่พบแรงจูงในในการจี้เครื่องบิน จึงลดระดับความสำคัญให้เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่รับผิดชอบต่อไป
นาย Suryambodo Asmoro ผู้อำนวยการตำรวจปราบปรามอาชญากรรมพิเศษของบาหลีกล่าวว่า ตามคำให้การของนาย Lockley ถึงเหตุผลที่เดินทางมาบาหลีก็เพื่อตามหาตัวภรรยาชาวอินโดนีเซีย ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่เมืองบังดุง ทางตะวันตกของเกาะชวา แต่เชื่อว่าได้เข้ามาทำงานอยู่ที่บาหลี นาย Lockley ได้พบเธอในออสเตรเลียเมื่อสามสัปดาห์ก่อน ก่อนที่เธอจะกลับมาอินโดนีเซีย และจากนั้นก็ขาดการติดต่อ อย่างไรก็ตามเขาจะไม่ถูกดำเนินคดีใด ๆ ในอินโดนีเซีย แต่การกระทำของเขาจะทำให้ทางการต้องเนรเทศเขากลับออสเตรเลียทันที
และเพื่อให้เป็นไปตามกระบวนกฎหมาย คดีของนาย Lockley จะถูกดำเนินการในออสเตรเลีย เนื่องจากเครื่องบินที่เกิดเหตุได้จดทะเบียนในประเทศออสเตรเลีย อันเป็นไปตามสนธิสัญญาข้อตกลงโตเกียวปี 1963 ที่กำหนดให้ที่เกิดเหตุบนเครื่องบินขนส่งผู้โดยสารระหว่างประเทศจะต้องขึ้นอยู่กับประเทศที่เครื่องบินลำนั้นจดทะเบียน และเป็นไปตามความร่วมมือทางด้านการตรวจคนเข้าเมืองระหว่างสองประเทศ
อย่างไรก็ตามทางการอินโดนีเซียไม่ได้สอบปากคำนักบินและลูกเรือของสายการบิน Virgin ที่ทำการส่งสัญญาณฉุกเฉินเตือนเหตุเครื่องบินกำลังถูกจี้กลางอากาศในระดับรหัสแดง (7500 alert code หมายถึง เครื่องบินถูกจี้กลางอากาศ)
ในวันอาทิตย์ที่ 27 เมษายนเช่นกัน โฆษกของ Virgin Australia ได้ออกแถลงข่าวว่า กัปตันและลูกเรือปฏิบัติตามขั้นตอนของมาตรฐานการดำเนินงาน เพื่อให้แน่ใจว่าผู้โดยสารและลูกเรือจะได้รับความปลอดภัยสูงสุด
หลังจากเกิดเหตุการณ์ถล่มตึกเวิดล์เทรดเซ็นเตอร์ที่มหานครนิวยอร์กในวันที่ 11 กันยายน 2001 สายการบินทั่วโลกได้เพิ่มระดับการรักษาความปลอดภัยที่สนามบินและบนเครื่องบินโดยสาร แม้เพียงพูดเล่นก็มีสิทธิติดคุกได้
รายงานเพิ่มเติมในวันที่ 29 เมษายนว่า นาย Lockley ได้ถูกจับขึ้นเครื่องบิน Virgin กลับสู่ออสเตรเลียในวันจันทร์ที่ 28 เมษายน พร้อมกับเขามีกำหนดที่จะต้องมาขึ้นศาลแขวงในนครบริสเบนในวันที่ 6 มิถุนายนนี้
นาย Matt Lockley ถูกนำตัวมาให้ปากคำในวันที่ 27 เมษายน หลังมีอาการดีขึ้น
(ท่านสามารถติดตามอ่านข่าวออสเตรเลียรายวันได้ที่ jingjonews.com)
Categories: ข่าวออสเตรเลีย
Leave a Reply